กัมพูชาได้รับสิทธิภาษี 0% สำหรับสินค้าส่งออก 28 รายการไปเวียดนาม

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาประกาศ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ว่า ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการส่งเสริมการค้าทวิภาคีระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม ซึ่งได้ลงนามเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 กัมพูชาจะได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากรในอัตรา 0% สำหรับสินค้าจำนวน 28 รายการ ที่มีแหล่งกำเนิดในกัมพูชา และส่งออกไปยังเวียดนาม ในช่วงปี 2568–2569

ภายใต้ระบบภาษีพิเศษนี้ กระทรวงพาณิชย์ขอให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกดำเนินการยื่นขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (CO Form S) ผ่านทางเว็บไซต์ https://co.moc.gov.kh สำหรับสินค้าทั้ง 28 รายการที่อยู่ภายใต้สิทธิประโยชน์ภาษีศุลกากรในอัตรา 0% โดยรายการสินค้าดังกล่าวรวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบางประเภทและเนื้อสัตว์

สำหรับข้าวสารและใบยาสูบ ซึ่งจะดำเนินการในปี 2568 ขอให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกยื่นคำขอต่อกระทรวงพาณิชย์ (แผนกส่งออกและนำเข้า กรมการค้าระหว่างประเทศ) ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่วันประกาศจนถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2568

ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม–เมษายน) มูลค่าการค้าระหว่างกัมพูชาและเวียดนามรวม อยู่ที่ 3.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. 2567 โดยกัมพูชาส่งออกสินค้าไปเวียดนามมูลค่า 1.79 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4.5% และนำเข้าสินค้าจากเวียดนามมูลค่า 1.43 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.3%

ความเห็นของสำนักงานฯ

  1. กัมพูชามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเวียดนามมาอย่างยาวนาน และมีความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เวียดนามถือเป็นคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา โดยในปี 2567 อยู่ในอันดับ 3 รองจากจีนและสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ 7.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 18.2% จากปี 2566 โดยแบ่งเป็นมูลค่านำเข้า 4.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมูลค่าส่งออก 3.61 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  2. ในเดือนเมษายน 2568 ทั้งสองประเทศตกลงจัดตั้งคณะกรรมการการค้าร่วม เพื่อผลักดันการค้าทวิภาคีให้บรรลุเป้าหมาย 20 พันล้านดอลลาร์ในอนาคต ปัจจุบันเวียดนามถือเป็นตลาดส่งออกที่มีศักยภาพของกัมพูชา รองจากสหรัฐฯ โดยสินค้าหลักที่ส่งออก ได้แก่ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ข้าว ยาง มันสำปะหลัง กล้วย มะม่วง และทรัพยากรธรรมชาติที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป
  3. การได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีศุลกากร 0% สำหรับสินค้า 28 รายการ ช่วยให้สินค้ากัมพูชามีราคาที่แข่งขันได้ในตลาดเวียดนาม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศ ส่งผลให้ผู้ผลิตมีแรงจูงใจในการพัฒนาคุณภาพสินค้า เพิ่มการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศ อันจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว

 ที่มา: Phnom Penh Post & Fresh News

มิถุนายน 2568

thThai