ชาวญี่ปุ่นนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยง (ในที่นี้หมายถึงสุนัขและแมวเท่านั้น) เนื่องด้วยปัจจุบัน รูปแบบครอบครัวของญี่ปุ่นเป็นแบบครอบครัวเดี่ยว ทั้งยังเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ทำให้ผู้สูงวัยนิยมเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงามากขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้คนมีโอกาสอยู่บ้าน ทำกิจกรรมที่บ้านมากขึ้น ชาวญี่ปุ่นวัยทำงานจึงหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมากขึ้นเช่นกัน
จากผลการสำรวจในปี 2567 พบว่า หลังผ่านพ้นวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาแล้ว ชาวญี่ปุ่นมีแนวโน้มในการหันมาเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น โดยจำนวนผู้ที่เลี้ยงสัตว์มี 28.6% ซึ่งแม้จะเป็นอัตราส่วนที่ค่อนข้างคงตัว ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งมีเพียง 26.6% ซึ่งในปี 2567 มีจำนวนสุนัขเลี้ยงประมาณ 6.79 ล้านตัว ลดลงจากปีก่อนหน้า 48,000 ตัว ในขณะที่มีแมวเลี้ยงประมาณ 9.15 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 86,000 ตัว

สถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทยสถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทยสถานการณ์ของอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งที่ผลิตเองภายในประเทศและที่นำเข้าจากต่างประเทศ จากรายงานผลสำรวจสภาพตลาดของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงประจำปีงบประมาณ 2566 โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และ ประมงญี่ปุ่น (MAFF) พบว่าปริมาณอาหารสัตว์เลี้ยงที่ผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ถือว่าค่อนข้างคงที่ ดังนั้นยังมีโอกาสสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยงนำเข้าสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
สถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทยสถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทย
การนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่น
ในการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงของญี่ปุ่น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งยังมีข้อพึงระวัง เพื่อกระจายอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีความปลอดภัยสู่ท้องตลาดดังแผนภาพต่อไปนี้

สถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทย

สถิติการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่น
จากรายงานสถิตินำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงของญี่ปุ่นปี 2566 โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น (MAFF) พบว่าญี่ปุ่นนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทยมากที่สุดเป็นอันดับแรก รองลงมาคือสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ตามลำดับ ทว่าทุกประเทศ (ดูตารางในหน้าถัดไป) มีปริมาณนำเข้าลดลง ยกเว้นเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ และแคนาดา ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ โดยมีปริมาณการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงมายังญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกหลักอาหารสัตว์เลี้ยงที่สำคัญของไทยสำหรับซึ่งข้อมูลนี้สอดคล้องกับรายงานผลการวิจัยของไทยว่า ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2567 ไทยส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงราว 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 19.5% จากปีก่อนที่หดตัว 15.0% ซึ่งการส่งออกที่เพิ่มขึ้นมาจากอุปสงค์จากตลาดคู่ค้าหลัก อย่างสหรัฐฯ อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันกว่า 50 % นอกจากนี้ ไทยยังเป็นทั้งประเทศฐานการผลิตอาหารสัตว์แบบครบวงจร จากข้อได้เปรียบทางการเกษตรและการประมง และยังเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง อันดับ 4 ของโลกด้วย

ปริมาณการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงของญี่ปุ่นแยกตามประเภทสัตว์

สถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทย

สถานการณ์ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่นและโอกาสการส่งออกของไทยhttps://drive.google.com/file/d/14pn8ns8Ot_PMaATu4O_c-tn9JbS_YIr8/view?usp=sharing

ที่มาข้อมูล

(1)รายงาน “ผลการสำรวจสถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงประจำปีงบประมาณ 2023 (ปีเรวะที่ 5)” (“2023(令和5年度)年ペットフード産業実態調査の結果について”), Japan Pet Food Association, ธันวาคม 2024

(2)https://www.cross-m.co.jp/news/release/20240424

(3)https://petfood.or.jp/pdf/data/2024/3.pdf

(4)แนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงไทยฉบับที่ 4 เดือนกันยายน 2567 โดย K-research

(5)รายงานการสำรวจภาพรวมตลาดอุตสากหรรมสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงในญี่ปุ่น

(6)https://www.maff.go.jp/j/syouan/tikusui/petfood/attach/pdf/index-24.pdf

(7)https://interpets-osaka.jp.messefrankfurt.com/osaka/ja/facts-figures.html

(8)รายงานสถิติประชากรรายเดือน (ค่าประมาณรายปี) ปี 2023 โดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น

(9)https://pet.benesse.ne.jp/food/dog/

(10)https://moffme.com/article/1178#i-3

 

 

thThai