ปัญหาเรื่องไฟฟ้าดับเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาในแอฟริกามานาน สคต. ขอนำเสนอข้อมูลที่อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะใช้ประกอบการพิจารณาของนักธุรกิจไทยที่สนใจมาลงทุนหรือทำการค้ากับแอฟริกาต่อไปในอนาคต โดยวิเคราะห์ถึง โอกาสและความสามารถของระบบไฟฟ้าในประเทศอื่นๆ ในแอฟริกาตะวันออก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยในการเข้ามาลงทุนหรือพิจารณาเสนอสินค้าที่เกี่ยวข้องได้ในอนาคต
จากการศึกษาพบว่า เคนยามีการเข้าถึงไฟฟ้าที่ ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประชาคมแอฟริกาตะวันออก (EAC) โดยมีรายละเอียดข้อมูลโดยประมาณ ดังนี้
ประเทศ | ทั่วประเทศ (%) | พื้นที่เมือง (%) | พื้นที่ชนบท (%) |
เคนยา | ~76–80% | ~95% | ~65–70% |
แทนซาเนีย | ~40–50% | ~80% | ~25–35% |
ยูกันดา | ~40–50% | ~70% | ~25–30% |
รวันดา | ~70–75% | ~95% | ~65% |
บุรุนดี | ~12–15% | ~40% | ~5% |
เซาท์ซูดาน | <10% | ~20% | <5% |
คองโก (DRC) (ถ้านับรวมใน EAC) | ~20% | ~40–50% | ~10–15% |
ที่มา : ธนาคารโลก (World Bank) และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) 2024
ข้อสรุปสำคัญ
- เคนยา เป็นหนึ่งในสองประเทศที่มี การเข้าถึงไฟฟ้าดีที่สุดใน EAC ร่วมกับ รวันดา
- เคนยาประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาระบบไฟฟ้าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผ่านโครงการอย่าง Last Mile Connectivity Project ที่ช่วยขยายไฟฟ้าไปสู่ประชาชนในชนบทได้เพิ่มขึ้นจำนวนมาก
- พื้นที่ชนบทของเคนยา มีอัตราการเข้าถึงไฟฟ้าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค แม้จะยังมีช่องว่างต้องพัฒนาต่อไปอีกมาก เพราะก็ยังมีปัญหาไฟฟ้าดับในบางครั้ง เพียงระยะเวลาในการดับไม่นาน
- ประเทศอย่าง บุรุนดี, เซาท์ซูดาน และบางส่วนของ คองโก ยังคงล้าหลังอย่างมากในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเขตชนบท
แนวโน้มในการพัฒนาและขยายระบบไฟฟ้าของเคนยา
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องของโครงสร้างพื้นฐาน – โครงการใหญ่เช่น Last Mile Connectivity Project และ Rural Electrification Programme ได้ช่วยให้ชาวชนบทหลายล้านคนเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าการลงทุนใน โครงข่ายสายส่งและสายจำหน่าย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- พลังงานหมุนเวียนเติบโตอย่างรวดเร็ว – เคนยาเป็นผู้นำในภูมิภาคด้านพลังงานสะอาด เช่น พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal) พลังงานลม เป็นต้น โดยมีสัดส่วนใช้พลังงานสะอาดถึงร้อยละ 90 ของพลังงานทั้งหมด และใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน, ดีเซล) เป็นพลังงานสำรองเท่านั้น
- นโยบายและเป้าหมายที่ชัดเจน – รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะบรรลุการเข้าถึงไฟฟ้า 100% ภายใน 2030 โดยมีการส่งเสริมการพัฒนา ไมโครกริด (Microgrids) และระบบ Off-grid สำหรับพื้นที่ห่างไกล
⚡ ตารางแสดงสัดส่วนของแหล่งพลังงานไฟฟ้าในเคนยา (ปี 2023–2024)
แหล่งพลังงาน | สัดส่วนโดยประมาณ (%) | หมายเหตุ |
พลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal) | 38–45% | เคนยามีแหล่งความร้อนใต้พิภพขนาดใหญ่ โดยเฉพาะใน Rift Valley |
พลังงานน้ำ (Hydropower) | 25–30% | แหล่งดั้งเดิมของประเทศ แต่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งบ่อยครั้ง |
พลังงานลม (Wind) | 12–15% | โครงการใหญ่อย่าง Lake Turkana Wind Power มีบทบาทสำคัญ |
พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) | 2–4% | ขยายตัวอย่างช้า โดยเฉพาะในระบบ off-grid |
เชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน, ดีเซล) | 10–15% | ใช้เป็นสำรองเมื่อพลังงานปกติไม่เพียงพอ |
ความท้าทายหลักของเคนยา
- ต้นทุนการเชื่อมต่อยังสูง – แม้จะมีการพัฒนาและมีโครงสร้างพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น แต่ค่าติดตั้งเริ่มต้นยังมีราคาแพง สำหรับครัวเรือนที่มีรายได้น้อยในชนบท ส่งผลให้บางครัวเรือนเลือกไม่เชื่อมต่อ แม้ว่าจะอยู่ใกล้สายไฟ
- คุณภาพและความเสถียรของบริการ – ระบบยังประสบปัญหา ไฟตก, ไฟดับบ่อย โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท โครงข่ายบางส่วนยังไม่สามารถรองรับการขยายตัวของความต้องการได้
- การเข้าถึงในพื้นที่ห่างไกล – พื้นที่ที่อยู่ไกลและเข้าถึงยาก (เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ยังมีอัตราการเข้าถึงไฟฟ้าต่ำการลงทุนในพื้นที่เหล่านี้ให้ผลตอบแทนช้า ทำให้เอกชนไม่ค่อยสนใจจะเข้าไปพัฒนาหรือลงทุนเพิ่ม
- การจัดการต้นทุนพลังงาน – แม้จะมีพลังงานสะอาดมาก แต่ ค่าไฟฟ้าในเคนยายังค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรายได้ของประชาชน รัฐบาลอาจจะต้องมีการปฏิรูปราคาพลังงานและการอุดหนุนที่มีต่อการใช้ไฟฟ้าของประชาชนโดยรวมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อจูงใจคนรายได้น้อยให้เข้าถึงระบบไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
กล่าวโดยสรุป เคนยาอยู่ในทิศทางที่ดีมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านใน EAC โดยเฉพาะในด้านการพึ่งพาพลังงานสะอาดและการขยายเครือข่ายไฟฟ้าไปยังพื้นที่ชนบท แต่ก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำเพื่อให้ประชากรทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงไฟฟ้า อย่างทั่วถึง, มีคุณภาพ และในราคาที่เหมาะสม
ตารางเปรียบเทียบ ค่าไฟฟ้า ระหว่างประเทศในกลุ่มประชาคมแอฟริกาตะวันออก (EAC)
(ราคา โครงสร้าง และการอุดหนุนจากภาครัฐ) ปี 2024
⚡ ค่าไฟฟ้าครัวเรือนเฉลี่ย (Residential Tariffs)
(หน่วย: เซนต์สหรัฐฯ ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (USD ¢/kWh) (1 ดอลลาร์สหรัฐ ≈ 140–160 ชิลลิ่งเคนยา)
ประเทศ | ค่าไฟฟ้าครัวเรือนเฉลี่ย (USD ¢/kWh) | หมายเหตุ |
เคนยา | 20–25 ¢/kWh | ค่อนข้างสูง; ขึ้นกับปริมาณการใช้ |
ยูกันดา | 15–18 ¢/kWh | มีการอุดหนุนสำหรับกลุ่มเปราะบาง |
แทนซาเนีย | 12–15 ¢/kWh | ราคาค่อนข้างต่ำจากพลังงานน้ำ |
รวันดา | 21–24 ¢/kWh | ใกล้เคียงกับเคนยา |
บุรุนดี | ~12–14 ¢/kWh | แต่คุณภาพบริการต่ำ |
เซาท์ซูดาน | >30 ¢/kWh หรือสูงกว่า | ค่าไฟสูงมากจากการพึ่งดีเซล |
DR คองโก | 10–12 ¢/kWh (เฉพาะเมืองใหญ่) | ส่วนใหญ่อยู่แบบ off-grid |
ข้อสังเกต
- เคนยา มีค่าไฟฟ้าอยู่ใน ระดับสูง ของภูมิภาค โดยเฉพาะสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่มาก เพราะมี โครงสร้างราคาตามระดับการใช้ (tiered pricing):
- ผู้ใช้ไม่เกิน 100 หน่วย/เดือน จะเสียในอัตราที่ถูกกว่าผู้ใช้มาก
- อย่างไรก็ตาม ค่า FT (Fuel Cost Adjustment) และ VAT ทำให้บิลไฟฟ้าสูงขึ้น
- แทนซาเนียและยูกันดา มีค่าไฟที่ถูกกว่าโดยรวม เพราะอิงจากพลังน้ำ และมีการควบคุมราคาเข้มงวดกว่า
- รวันดา แม้จะมีความก้าวหน้าเรื่องไฟฟ้า แต่ยังมีต้นทุนการผลิตสูง ทำให้ค่าไฟสูงใกล้เคียงกับเคนยา
- เซาท์ซูดาน มีค่าไฟสูงที่สุดในภูมิภาค เนื่องจากระบบไฟฟ้าอิงกับเครื่องปั่นไฟดีเซลที่ต้นทุนสูงมาก
- ค่าไฟของ เคนยา จัดว่า สูง เมื่อเทียบกับประเทศใน EAC ส่วนหนึ่งเพราะการพึ่งพาพลังงานสะอาดและระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนขึ้น
- อย่างไรก็ตาม คุณภาพและความครอบคลุมของไฟฟ้าในเคนยา ก็ดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค
- การปฏิรูปค่าไฟและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต-จ่ายไฟ ยังเป็นหัวใจสำคัญในการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
ความเห็นของ สคต.
จากรายงานดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลเคนยามีการวางแผนในการพัฒนาระบบไฟฟ้าของประเทศ เพื่อสร้างเสริมโอกาสในด้านการค้าและการลงทุนของประเทศ ตลอดจนพัฒนาและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนมากที่สุดประเทศหนึ่งในแอฟริกา และน่าจะทำให้เคนยามีศักยภาพในการที่จะเป็นจุดหมายในการลงทุนในอนาคตอันใกล้ของหลายประเทศที่สนใจต่อไป
สำหรับประเทศไทยนั้น หากเราต้องการมาลงทุนหรือทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาจจะค่อยๆ ลองศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องและเข้ามาลงทุนในเคนยาในอนาคตอันใกล้ เช่น การร่วมทุนในการพัฒนาและวิจัยพลังงานสะอาด เป็นต้น
ผู้ส่งออกหรือนักธูรกิจที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมด้านการค้าและการลงทุนต่าง ๆ เกี่ยวประเทศเคนยา และประเทศในแอฟริกาตะวันออก ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail: ของสำนักงานฯ ที่ info@ocanairobi.co.ke
ที่มา : https://www.businessdailyafrica.com/