งานเทศกาลความตาย (Death Fes): คิดเรื่องความตายอย่างมีสีสันและสนุกสนาน

ภายในงานมีการจัดโปรแกรม 68 รายการ ไม่ว่าจะเป็น การบรรยายโดยพระสงฆ์ การเรียนรู้เรื่องความตายและการมีชีวิต รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการไว้อาลัยที่เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน สมาคม Death Fes ได้จัดงาน “Death Fes” ขึ้นที่ชิบุยะ ฮิคาริเอะ ระหว่างวันที่ 12–17 เมษายน 2568 ภายใต้ธีม “ทำให้ความตายดูป๊อปมากขึ้น และให้คำนิยามใหม่กับการเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อความตาย (ภาษาญี่ปุ่น: ชูคัตสึ)” โดยมีกิจกรรมเวิร์คช็อปและนิทรรศการพิเศษต่างๆ จัดแสดง
มีบริษัทเข้าร่วมออกคูหาทั้งหมด 57 ราย และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 4,200 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับงานเดียวกันในปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้น บรรยากาศของงานไม่ได้มีภาพลักษณ์เศร้าหมองเกี่ยวกับความตาย แต่กลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตัวอย่างสิ่งที่นำมาจัดแสดงมีดังนี้:

งานเทศกาลความตาย (Death Fes): คิดเรื่องความตายอย่างมีสีสันและสนุกสนาน(ซ้าย) หน้ากากความตายที่หล่อจากใบหน้าของผู้ล่วงลับ (โดยสตูดิโอ Sukarabe) ได้รับการชื่นชมจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตว่า “รู้สึกราวกับได้พบกับผู้ล่วงลับอีกครั้ง” ราคาหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์อยู่ที่ 165,000 เยน ส่วนวัสดุบรอนซ์อยู่ที่ 363,000 เยน
(ขวา) ชุดเอ็นดิ้งเดรส (โดย Y2 Planning) มีราคาตั้งแต่ 40,000 เยน ถึง 300,000 เยน ในปี 2567 มียอดขายทั้งหมด 200 ชุด

งานเทศกาลความตาย (Death Fes): คิดเรื่องความตายอย่างมีสีสันและสนุกสนาน
เพชรจากเถ้ากระดูกผู้ล่วงลับงานเทศกาลความตาย (Death Fes): คิดเรื่องความตายอย่างมีสีสันและสนุกสนาน (โดย Algordanza Japan) ผลิตขึ้นโดยการสกัดคาร์บอนจากเถ้ากระดูกในโรงงานเฉพาะทางที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากมีผู้สั่งจองเป็นจำนวนมาก จึงใช้เวลาประมาณ 1 ปีกว่าจะได้รับสินค้า สีของเพชรจะเปลี่ยนไปตามองค์ประกอบของเถ้ากระดูก ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ราคาประมาณ 583,000 เยน ถึง 3,000,000 เยน
งานเทศกาลความตาย (Death Fes): คิดเรื่องความตายอย่างมีสีสันและสนุกสนาน(ซ้าย) พิธีศพแบบส่งไปอวกาศ (โดย Space NTK) เป็นบริการที่นำเถ้ากระดูกหรือของที่ระลึกของผู้ล่วงลับบรรจุในดาวเทียม แล้วส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดของบริษัท SpaceX จากสหรัฐอเมริกา ดาวเทียมจะโคจรรอบโลกเป็นเวลาหลายปี และสุดท้ายจะเผาไหม้กลายเป็นดาวตก ค่าบริการอยู่ที่ 11,000,000 เยน
(ขวา)โลงศพสุดหรูหราและงดงาม (โดย Grave Tokyo) งานเทศกาลความตาย (Death Fes): คิดเรื่องความตายอย่างมีสีสันและสนุกสนานมีราคาประมาณ 250,000 เยน
ภายในงานมีกิจกรรมที่เปิดให้ผู้เข้าร่วมงานเขียนสิ่งที่ตนสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับความตายอย่างอิสระ มีหัวข้อหลากหลายถูกหยิบยกขึ้นมา เช่น การสืบทอดทรัพย์สิน ความตายอย่างโดดเดี่ยว และการุณยฆาต เป็นต้น

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
ญี่ปุ่นกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดย ณ ปี 2566 มีประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 29% ของประชากรทั้งหมด เมื่อจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น การวางแผนเพื่อเตรียมตัวสำหรับช่วงสุดท้ายของชีวิตหรือที่เรียกว่า “ชูคัตสึ” ก็เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
นอกจากการจัดการมรดกและข้าวของเครื่องใช้แล้ว ยังมีประเด็นเรื่องการจัดการหลุมศพของบรรพบุรุษที่เริ่มกลายเป็นเรื่องยากขึ้น เนื่องจากการย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในเมือง ทำให้ผู้คนต้องเลือกวิธีจัดการกับเถ้ากระดูกรูปแบบใหม่ เช่น การย้ายหลุมศพ หรือการเลือกวิธีจัดการเถ้ากระดูกที่เหมาะสมกับวิถีชีวิต ซึ่งปัจจุบันมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงบริการโปรยเถ้ากระดูกในประเทศไทยด้วย
นอกจากนี้ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับพิธีศพและการระลึกถึงผู้ล่วงลับก็มีความหลากหลายมากขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างจากงานแสดงสินค้าอีกแห่งหนึ่งมีการแนะนำโกศนำเข้าจากอิตาลี และโลงศพจากเวียดนาม รวมถึงของที่ระลึกสไตล์โมเดิร์นที่ผลิตทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก รวมถึงสินค้าเฉพาะทางสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ชุดกรอบรูปพร้อมที่ปักธูป เป็นต้น
ประเทศไทยซึ่งมีความเชื่อทางพุทธศาสนาใกล้เคียงกับญี่ปุ่น จึงอาจมีศักยภาพในการพัฒนาและจำหน่ายสินค้าด้านนี้ได้เป็นอย่างดี
อีกจุดเด่นหนึ่งคืองานแสดงสินค้าเทศกาล Death Fes ที่ปรากฏในข่าวครั้งนี้ ซึ่งมีแนวคิด “ทำให้ความตายดูป๊อปมากขึ้น” และพยายามเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ การที่ผู้คนเริ่มสนใจชูคัตสึตั้งแต่อายุน้อย นอกจากจะสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของค่านิยมแล้ว ยังเชื่อมโยงไปถึงกระแสนิยมแบบ minimalism และอาจส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทย เช่น ความต้องการสินค้าเชิงจริยธรรม (Ethical products) ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ และความสนใจในพุทธศาสนาแบบไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.
สำหรับงานแสดงสินค้าและบริการแบบ B2B ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับช่วงสุดท้ายของชีวิต (ชูคัตสึ) “ENDEX” (เว็บไซต์: https://ifcx.jp/en/) ถือเป็นงานแสดงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยในปีนี้ มีกำหนดจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 10–11 กันยายน 2568
นอกจากนี้ ยังมีงานแสดงสินค้าอีกงานที่เน้นเฉพาะกลุ่มสัตว์เลี้ยงคือ “INTERPET” (https://x.gd/1fblS) ซึ่งมีการแสดงสินค้าหรือบริการเกี่ยวกับพิธีศพและการรำลึกถึงสัตว์เลี้ยง (Pet Ceremony & Memorial Service) ด้วยเช่นกัน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
แปลและเรียบเรียงจาก
หนังสือพิมพ์ Nikkei MJ ฉบับวันที่ 5 พฤษภาคม 2568

thThai