- สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา หรือ CDC ได้อนุมัติโครงการลงทุนทั้งหมด 106 โครงการ มูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 649 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมี 73 โครงการอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ SEZ และอีก 33 โครงการอยู่นอก SEZ สร้างงาน 107,000 ตำแหน่งให้กับคนในท้องถิ่น
- แบ่งตามภาคการลงทุน ดังนี้ ภาคอุตสาหกรรมมีส่วนแบ่งมากที่สุดคือ 90.57 % การเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 3.77 % โครงสร้างพื้นฐาน 3.77% และการท่องเที่ยว 1.89%
- โดย 26 โครงการในกำปงสปือ 25 โครงการในสวายเรียง 19 โครงการในกรุงพนมเปญ 13 โครงการในพระสีหนุวิวล์ 9 โครงการในกันดาลและตาแก้ว 5 โครงการในกำปงฉนัง 2 โครงการในเกาะกง 4 โครงการใน สตึงแตรง พระวิหารมี 1 โครงการ กำปอต 1 โครงการ และกำปงจาม 1 โครงการ
- โครงการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ (1) โรงแรมและศูนย์กลางธุรกิจระดับ 5 ดาวในจังหวัดพระสีหนุ ด้วยเงินลงทุน 574 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (2) ไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 150 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเขตอำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง และ (3) โครงการใน SEZ คือการผลิตยางในจังหวัดสวายเรียงด้วยเงินลงทุน 212 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
- สภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา ระบุว่า นักลงทุนกัมพูชาลงทุนมากที่สุด คิดเป็น 58% ของการลงทุนทั้งหมด จีน 35.3% และที่เหลือคือนักลงทุนต่างชาติอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย
ความเห็นของสำนักงานฯ
- การลงทุนในไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากกัมพูชามีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากภาคส่วนต่างๆ เช่น เครื่องนุ่งห่ม การท่องเที่ยว การก่อสร้าง และการเกษตร ศักยภาพในการเติบโตนี้ดึงดูดนักลงทุนที่แสวงหาโอกาสในตลาดเกิดใหม่
- กัมพูชาดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป อเมริกา และอาเซียน โดยรัฐบาลกัมพูชามีสิ่งจูงใจในการลงทุนที่หลากหลายเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งกัมพูชาอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ แร่ธาตุ และพื้นที่เกษตรกรรม จึงเป็นโอกาสในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ เช่น เหมืองแร่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ประกอบกับกัมพูชามีสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงระหว่างประเทศต่างๆ เช่น FTA กับจีน และ เกาหลีใต้ ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ข้อตกลง RCEP และ EBA กับสหภาพยุโรป เป็นต้น
—————————
ที่มา: Khmer Times
เมษายน 2567