กัมพูชา-ไทย ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านการเชื่อมโยงในระดับผู้นำของพรรคการเมือง

  • กัมพูชาและไทย ให้คำมั่นสัญญาว่าจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศผ่านโครงสร้างพื้นฐาน การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
  • คำมั่นสัญญานี้จัดทำโดยหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุน เซน และ น.ส. แพทองธารชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในการประชุมทวิภาคี ณ อาคารอนุสาวรีย์ 7 มกราคม กรุงพนมเปญ
  • น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ได้เยือนกัมพูชา 2 วัน คือวันที่ 18-19 มี.ค. 2567 ตามคำเชิญของสมเด็จฯ ฮุน เซน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเยือนระดับสูงเพื่อการแลกเปลี่ยนระหว่างสองพรรคบนพื้นฐานมิตรภาพและความร่วมมือที่ใกล้ชิดของทั้งสองประเทศ
  • นอกจากสมเด็จ ฮุน เซน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ยังได้เข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฯ สาย ชุม ประธานวุฒิสภา และนาง เจียม เยียบ รองประธานรัฐสภาคนที่ 1 และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำรุ่นใหม่ของพรรคประชาชนกัมพูชา และรัฐสภาหลายท่าน รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรี ฮุน มานี ซึ่งเป็นกรรมการประจำพรรคประชาชนกัมพูชา และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการ
  • นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยได้เยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดเชิงเอก และอนุสรณ์สถาน ชนะชนะ ในพนมเปญ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ล่าสุดของกัมพูชา โดยเฉพาะนโยบายแบบ ชนะชนะ ที่นำมาซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาสู่ประเทศกัมพูชา

ความเห็นของสำนักงานฯ

1) ความสัมพันธ์ระหว่าง ท่านทักษิณ กับ ท่านฮุน เซน แนบแน่นจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก ซึ่งแทบไม่เคยปรากฎในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่จะมีการกระชับความสัมพันธ์กับชาติอื่นๆ ในระดับพรรคการเมืองและรัฐบาลไปพร้อมๆ กัน ทั้งนี้ การมาเยือนกัมพูชาของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้รับเชิญจากสมเด็จฯ ฮุน เซน เพื่อมาพบปะ หารือ และหาความร่วมมือระหว่างพรรคในประเด็นที่สำคัญๆ นอกจากการทำพรรคการเมือง ได้แก่ เห็นด้วยในหลักการถึงการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เรื่อง โครงการ “6 Countries 1 Destination” ในเวที  ASEAN Summit และยังได้เสนอให้มีการนำร่องการเข้าประเทศกลุ่มอาเซียนด้วยวีซ่าเดียวระหว่างไทย-กัมพูชา การเสนอให้มีการจัดตั้งทีมทำงานระดับพรรคการเมืองต่อพรรคการเมือง เพื่อให้ สส. ในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่ติดกับแนวชายแดน หารือร่วมกันถึงแนวทางการพัฒนาการค้าชายแดนที่ติดกันถึง 7 จังหวัด และเปลี่ยนพื้นที่ที่เคยเป็นสนามรบ ที่ยังคงมีระเบิดสมัยสงครามเหลืออยู่เป็นสนามการค้า เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568 ทั้งนี้ การหารือถึงความร่วมมือที่จะพัฒนาศักยภาพ สส. ของทั้ง 2 พรรคการเมืองนี้ มีโจทย์หลักคือการทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ให้นำไปสู่การสร้างสันติภาพ และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน

2) จากความมั่นคงทางการเมืองของกัมพูชาที่บริหาร โดยพรรคประชาชนกัมพูชานานกว่า 30 ปี และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนกัมพูชา จะช่วยเพิ่มโอกาส และความมั่นใจของนักธุรกิจของทั้งสองประเทศในด้านการค้า การลงทุน ระหว่างกัน เนื่องจากรัฐบาลทั้งสองได้ตั้งเป้าในการส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดนเป็น 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2568 และพัฒนาพื้นที่ชายแดนระหว่างกันให้เป็นพื้นที่การค้าเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนในภูมิภาคที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง

—————————

ที่มา: Khmer Times

มีนาคม 2567

 

thThai