ยอดจดทะเบียนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในกัมพูชา สะสมรวม 1,162 คัน

 

ปัจจุบัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ได้จดทะเบียนในกัมพูชา สะสม รวม 1,162 คัน ตามข้อมูลของกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง (MPWT) ณ เดือนกันยายน 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนของประชาชนชาวกัมพูชา โดย แบ่งได้ ดังนี้ รถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 573 คัน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสามล้อ 387 คัน และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า 202 คัน
ซึ่งรัฐบาลกัมพูชา โดยกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ได้เร่งจัดทำโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับรถยนต์ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งสถานีชาร์จไฟเพิ่มเติมในกรุงพนมเปญ และในจังหวัดต่างๆ

นาย Pov Maly secretary of state กล่าวว่า ปัจจุบัน ประชาชนชาวกัมพูชาจำนวนมาก ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เนื่องจากประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปที่ใช้น้ำมัน ซึ่งตามข้อมูลในปี 2564 มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จดทะเบียนกับกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง จำนวน 63 คัน และเพิ่มขึ้นในปี 2565 เป็น 662 คัน และเพิ่มขึ้นในปี 2566 (ม.ค. -ก.ย.) เป็น 1,162 คัน

รัฐบาลกัมพูชามุ่งมั่นที่จะลดมลพิษจากการใช้ยานพาหนะที่ใช้น้ำมัน เปลี่ยนมาใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า อย่างน้อย ร้อยละ 40 ของยานพาหนะทั้งหมด และร้อยละ 70 ของรถจักรยานยนต์ภายในปี 2593ปัจจุบันรัฐบาลได้มีนโยบายเชิงกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนกัมพูชาให้เป็นศูนย์กลางการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยดึงดูดการลงทุนในภาคส่วนนี้มากขึ้นและส่งเสริมการส่งออก

  ข้อมูลที่น่าสนใจ

          นายกรัฐมนตรี Hun Manet ได้กล่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2566 ว่า รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้ชาวกัมพูชาใช้ยานพาหนะไฟฟ้ามากขึ้น และมีนโยบายปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
เพื่อลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ รัฐบาลกัมพูชายังได้กำหนดเป้าหมายดังกล่าวไว้ในแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว
ปี 2050 เพื่อลดปริมาณคาร์บอน และสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการสนับสนุนให้ใช้พลังงานสะอาดในการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และจักรยานยนต์ไฟฟ้า

   โอกาส/ผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย

         1. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) เติบโตอย่างก้าวกระโดดในกัมพูชา เนื่องจากการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมของประชาชนชาวกัมพูชา รวมถึงรัฐบาลกัมพูชาได้ออกนโยบายส่งเสริมธุรกิจรถยนต์ประเภทนี้โดยให้การสนับสนุนทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย จึงส่งผลให้เกิดการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย เพิ่มมากขึ้นในกัมพูชา

       2. รัฐบาลกัมพูชามีความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้แก่ EV Energy Tech และ BYD เพื่อส่งเสริมให้มีการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้ากว่า 200 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการออกนโยบายปรับลดอัตราภาษีการนำเข้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 63% เมื่อเทียบกับรถยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 120% เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภครถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างน้อย 40% ภายในปี 2050 และลดมลพิษทางอากาศ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า อาจพิจารณาส่งออกสินค้าดังกล่าวมายังกัมพูชา หรืออาจลงทุนด้านสถานีชาร์จ EV ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

———————————————-

ที่มา: Khmer Times

 ธันวาคม 2566

thThai