COVID-19 เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z อย่างไร?

ผลกระทบของ COVID-19 (ตั้งแต่ปี 2563-ปัจจุบัน) ที่มีต่อผู้บริโภครุ่นใหม่หรือ Generation Z (Gen Z) (อายุระหว่าง 18-25 ปี) ได้เปลี่ยนกลุ่ม Gen Z ที่ไม่นิยมดื่มแอลกอฮอล์ให้กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มนักดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น งานวิจัยของ Nielsen IQ พบว่า ช่วงก่อนปี 2563 อัตราการดื่มเบียร์ของกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับผู้บริโภคกลุ่ม Millennials และร้อยละ 64 มีแนวโน้มจะลดการดื่มเบียร์ลงอีก การแพร่ระบาดที่ยาวนานของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ผ่านมาได้ทำให้พฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกลุ่ม Gen Z เพิ่มสูงขึ้น รายงานโดย Nielsen พบว่า ปี 2563 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 (เป็นการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออนไลน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 262) และกลุ่มผู้บริโภค Gen Z ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 โดยมีปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังนี้

  1.  Budget in mind กลุ่มผู้บริโภค Gen Z เป็นกลุ่มนักดื่มในงบประมาณจำกัด รายงานโดย Knit พบว่า กลุ่มผู้บริโภค Gen Z ร้อยละ 36.6 ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายครั้งต่อเดือน และร้อยละ 20.2 ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุก 2-3 เดือน สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภค Gen Z เป็นกลุ่มนักดื่ม แต่มีงบประมาณจำกัด โดยมีการใช้จ่ายซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย 46 เหรียญออสเตรเลียต่อเดือน ส่วนใหญ่เน้นการซื้อเครื่องดื่มราคาถูก นอกจากนี้ เพศยังมีบทบาทสำคัญต่อการจัดสรรค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในแต่ละเดือน โดยเพศชายจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย 69 เหรียญออสเตรเลียต่อเดือนเมื่อเทียบกับเพศหญิงที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 35 เหรียญออสเตรเลียต่อเดือน ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ชอบหนี้สินและให้ความสำคัญต่อคุณค่าของเงิน ผู้บริโภค Gen Z จะให้คำนึงถึงความบ่อยครั้งในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปริมาณการดื่ม แบรนด์และร้านค้าจำหน่าย สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิม คือ ผู้บริโภค Gen Z ซึ่งเป็นผู้บริโภคยุคดิจิตัลกลับนิยมซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากร้านค้า Offline ส่วนใหญ่นิยมซื้อจากร้าน Grocery และร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ และนิยมซื้อสินค้าจากคำแนะนำของเพื่อนหรือคำแนะนำของคนส่วนใหญ่และรสชาติมากกว่าความหรูหราของบรรจุภัณฑ์หรือกลุ่มผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดีย
    2. Moderation Generation ผู้บริโภค Gen Z แตกต่างจากกลุ่ม Baby Boomer โดยจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีเหตุมีผล เช่น ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเข้าสังคมตามวาระโอกาสและสถานที่ที่เหมาะสม (ไม่จำเป็นต้องหรูหราและมีราคาแพง) กลุ่ม Gen Z จำนวนร้อยละ 74.4 ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสปิริท (นิยมเครื่องดื่ม Vodka ร้อยละ 88.5 รองลงมาคือ Tequila และ Mezcal ร้อยละ 71.2 และเครื่องดื่มประเภท Gin ตามลำดับ) และกลุ่ม Gen Z ร้อยละ 69.4 ซื้อเครื่องดื่มประเภท Hard หรือ spiked seltzers เนื่องจากมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตและแคลอรี่ต่ำ
    อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Gen Z ยังเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญต่อสุขภาพกายและใจเป็นหลัก และสามารถงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือลดปริมาณการดื่มลง หากเป็นผลดีต่อสุขภาพ มีผลให้การจำหน่ายเครื่องดื่มทางเลือกอื่นๆ เช่น เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่ำมียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเป็นโอกาสดีต่อการเติบโตของเครื่องดื่มพร้อมดื่มและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ เช่น ชานมเย็นไทย
    ข้อมูลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย ระบุว่า ปัจจุบันอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ของกลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปเพิ่มขึ้นจาก 9.48 ลิตรอยู่ที่ 9.51 ลิตร โดยชาวออสเตรเลียดื่มเครื่องดื่ม Cider เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 ดื่มไวน์และเครื่องดื่มสปิริท/RTD เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 แต่อัตราการดื่มเบียร์ลดลงร้อยละ 0.7 โดยภาพรวมอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของชาวออสเตรเลียโดยเฉลี่ยลดลงประมาณร้อยละ 1.1 ต่อปี

…………………………….
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์

ที่มา : www.foodanddrinksbusiness.com.au/www.abs.gov.au

thThai