ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ วันที่ 17-21 เมษายน2566
www.thaitradebudapest.hu / Facebook Fanpage: @ThaiTradeBudapest
อุตสาหกรรมยานยนต์ของฮังการีเป็นภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจของประเทศ มีมูลค่าการผลิตราว 2.62 หมื่นล้านยูโร คิดเป็นสัดส่วนราว 3.9% ของ GDP มีการจ้างแรงงานราว 158,000 ตำแหน่งทั้งประเทศ หรือประมาณ 3.4% ของจำนวนแรงงานในประเทศ มีการลงทุนในอุตสาหกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง มีผู้ประกอบการ 2 กลุ่มใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ข้ามชาติ เช่น Audi, Opel, Mercedes-Benz, Suzuki เป็นต้น และบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กของฮังการีที่เชี่ยวชาญด้านชิ้นส่วนและส่วนประกอบยานยนต์ต่างๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ 700 บริษัท ทั้งนี้ ฮังการีมีต้นทุนราคาที่ดิน และแรงงานมีทักษะที่ไม่แพงมาก เมื่อเทียบกับประเทศยุโรปตะวันตก ฮังการีจึงเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนและประกอบรถยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในยุโรป โดยเฉลี่ยแล้ว ฮังการีประกอบรถยนต์ประมาณ 420,000 คันต่อปี และผลิตเครื่องยนต์ราว 1.9 ล้านเครื่องต่อปี
แนวโน้มการผลิตสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ของฮังการี คือการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (E-Mobility) มากขึ้น ผู้ผลิตหลายรายแข่งกันลงทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) และชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลกที่ก้าวไปสู่การขนส่งที่ยั่งยืน อีกประการหนึ่งที่สำคัญ คือการวิจัย พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ เช่น เทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ รถยนต์อัจฉริยะ (Connected Car)[1] และการผลิตอัจฉริยะที่ใช้ระบบดิจิทัลและระบบอัตโนมัติ (Smart Manufacturing) แนวโน้มเหล่านี้ ล้วนสอดคล้องกับการตั้งเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนและส่งเสริมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภาคยานยนต์ของฮังการี
ทั้งนี้ รัฐบาลฮังการีมีงบประมาณสนับสนุนอุตสาหกรรมสมัยใหม่อย่างต่อเนื่อง มีมาตรการทางภาษีและสิทธิประโยชน์ที่ดึงดูดใจนักลงทุนต่างชาติ ทั้งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย มีพรมแดนติดต่อกับหลายประเทศ เป็นศูนย์กลางการค้า การขนส่ง และกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย รวมทั้ง ภูมิภาคยุโรปตะวันตกและตะวันออก นอกจากนี้ ระบบโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งสินค้าของประเทศฮังการีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว อันจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งทั้งผู้โดยสารและสินค้าภายในทวีปยุโรป โดยการที่ฮังการีเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปและเขตศุลกากรร่วมก็ช่วยให้การค้าขายและขนส่งต้นทุนการผลิตและสินค้าภายในทวีปยุโรปสะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น ปัจจัยทั้งปวงนี้สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เหมาะสมสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในฮังการี
นอกจากนี้ การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ฮังการียังสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจอื่นๆ กล่าวคือ ทำให้เกิดกิจกรรมในธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคยานยนต์ต้องการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพในการขนส่งยานพาหนะและส่วนประกอบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อีกทั้ง เกิดการจัดตั้งศูนย์ให้บริการธุรกิจที่รองรับการบริการหลังการขยายให้แก่ลูกค้าของแบรนด์รถยนต์ในฮังการี ทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมขยายตัว
ณ ปัจจุบัน แบรนด์รถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนและประกอบรถยนต์ ในฮังการี มีดังต่อไปนี้
- แบรนด์ Audi ณ เมือง Győr ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี
- แบรนด์ Mercedes-Benz ณ เมือง Kecskemét ทางใต้ของฮังการี
- แบรนด์ Suzuki ณ เมือง Esztergom ทางตอนเหนือของฮังการี
- แบรนด์ Bosch ณ เมือง Miskolc ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฮังการี
- แบรนด์ Opel ณ เมือง Szentgotthárd ทางตะวันตกของฮังการี ติดพรมแดนออสเตรีย
- แบรนด์ Hankook มีโรงงานผลิตยางรถยนต์ ณ เมือง Rácalmás ทางตอนกลางของฮังการี
- แบรนด์ Denso มีศูนย์กระจายสินค้า ณ เมือง Székesfehérvár ตอนกลางของฮังการี
- แบรนด์ Bridgestone ณ เมือง Tatabánya ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของฮังการี เป็นต้น
- นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ให้บริการธุรกิจ (Business Service Center) ของแบรนด์ JLR, Ford และ Nissan ในฮังการีอีกด้วย
เมื่อพิจารณาศักยภาพในการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ฮังการี รัฐบาลฮังการีจึงสนับสนุนให้มีการจัดงานแสดงสินค้าเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม เกิดเป็นงานแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ และเทคโนโลยียานยนต์ Automotive Hungary ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้า HUNGEXPO Budapest Congress and Exhibition Center กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม 2566 โดยปีนี้จะครบรอบ 10 ปี ของการจัดงานดังกล่าว และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้จัดงานกลับมาจัดงาน On-site อีกครั้ง คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานหลักหมื่นคน โดยงานฯ ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น Hungarian Investment Promotion Agency รวมถึงสมาคมการค้า ได้แก่ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ฮังการี สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ฮังการี และแพลตฟอร์มนำเสนอข่าวสารวงการยานยนต์ชั้นนำในฮังการี Autopro.hu
งาน Automotive Hungary จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีเจรจาการค้าสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้และแสดงนวัตกรรมยานยนต์ สำหรับซัพพลายเออร์ ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการทั้งในและต่างประเทศจากทุกระดับของอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะมี Exhibitor ในงาน ทั้งบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ และ SME กว่า 400 บริษัทจากประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป เช่น ฮังการี ออสเตรีย เยอรมนี โปแลนด์ โรมาเนีย อิตาลี เป็นต้น ส่วนประเทศนอกสหภาพยุโรปนั้นมีจีนกับเกาหลีใต้
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดแสดงเทคโนโลยีที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ การขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (E-Mobility) การผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีงานเชื่อมโลหะอัตโนมัติ การเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล (Digital Transformation) เพื่อปรับแต่งประสบการณ์ของผู้บริโภค (Personalisation) การจัดระบบคลังสินค้าอัตโนมัติแบบลดการใช้กระดาษ (Paperless Intralogistics) เศรษฐกิจไฮโดรเจน การส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ เป็นต้น จึงจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ฮังการีให้ความสำคัญกับนวัตกรรมสำคัญที่สอดคล้องกับกระแสโลก อันประกอบด้วย รถยนต์ไฟฟ้า ระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และแหล่งพลังงานสะอาดเป็นอย่างมาก
[1] Connected Car หรือ Connected Vehicle คือการประยุกต์ใช้งานอย่างหนึ่งของ Internet of Things (การที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งข้อมูลถึงกันได้ด้วยอินเตอร์เน็ต โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลกับยานพาหนะ) โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้กับยานยนต์และการคมนาคมขนส่ง ทำให้รถยนต์สามารถสื่อสารกับสิ่งต่างๆ และช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ยานยนต์ เช่น บริการด้านข่าวสารและความบันเทิง บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน การขับขี่อัตโนมัติ การสื่อสารของรถยนต์กับสิ่งรอบตัว (Vehicle-to-Everything Communication) เป็นต้น
ข้อคิดเห็นของ สคต.
สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ เห็นว่าการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ของไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในด้านการเริ่มสร้างเครือข่ายธุรกิจการสำรวจตลาด และการเข้าสู่ตลาดยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เพราะนอกจากผู้ประกอบการไทยจะได้พบคู่ค้าที่มีศักยภาพในฮังการี แลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ และทดลองประชาสัมพันธ์สินค้า/บริการของตนในฮังการีแล้ว ยังสามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับซัพพลายเออร์หรือผู้นำเข้าที่มาออกบูธในงานนี้ที่มาจากประเทศอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านการขับเคลื่อนอัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขั้นสูง
ทั้งนี้ งานแสดงสินค้า Automotive Hungary มีกำหนดจัดขึ้นทุกปี โดยกำหนดการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป คาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 และจะเปิดรับสมัครผู้สนใจออกบูธจนถึงช่วงเดือนมีนาคม 2567 ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวในปี 2567 ทั้งการเข้าชมงานและการออกบูธ สามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ของผู้จัดงาน Hungexpo หรือติดต่อ สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ เพื่อประสานงานกับผู้จัดงานต่อไป
อนึ่ง การที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยมุ่งเน้นมาทางรถยนต์ไฟฟ้า การขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการจัดการห่วงโซ่อุปทานด้วยระบบไอทีมากขึ้น ผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ โดย สคต. ณ กรุงบูดาเปสต์ แนะนำว่าผู้ประกอบการไทยควรเริ่มจากการเตรียมตัวก่อนเข้าร่วมงานฯ เช่น การศึกษาข้อมูลตลาด ผู้แสดงสินค้า และพันธมิตรที่มีศักยภาพล่วงหน้า กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจของตนให้ชัดเจน และการปรับกลยุทธ์ในการไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าให้สอดคล้องกันกับเป้าหมายทางธุรกิจ โดยในระหว่างงานฯ สคต. แนะนำให้ผู้ประกอบการฯ เข้าร่วมการสัมมนาวิชาการในงานฯ เพื่อเรียนรู้แนวโน้มความต้องการของตลาดยานยนต์ยุโรป เข้าหา Exhibitor และใช้โอกาสนี้ในการเจรจาธุรกิจและริเริ่มความร่วมมือ และภายหลังจากงานฯ แล้ว ผู้ประกอบการ ควรติดตามการพูดคุยกับคู่ค้าอย่างสม่ำเสมอ และพิจารณาไปเยี่ยมชมโกดังหรือโรงงานของคู่ค้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจและปูทางไปสู่ความร่วมมือระยะยาว
ทั้งนี้ สินค้าไทยที่มีศักยภาพสูงและเป็นเป้าหมายในการขยายการค้าในฮังการี คือกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมประเภทวัสดุประกอบและชิ้นส่วน และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร โดยพิจารณาจากในปี 2565 หมวดสินค้า ที่ไทยส่งออกไปฮังการีอันดับแรก คือ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์สำหรับรถแทรกเตอร์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยานยนต์ขนส่งบุคคล ยานยนต์สำหรับขนส่งของ และยานยนต์ใช้งานพิเศษ เช่น ถุงลมนิรภัย พวงมาลัย กระปุกเกียร์ กระบอกสูบ คลัตช์ กันชน จานเบรก ชุดตกแต่งติดตั้งภายใน เป็นต้น มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 2,769.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 0.43% (YoY)
ที่มาของข้อมูล: Automotive Hungary, European Trade Union Institute, Hungarian Investment Promotion Agency, International Trade Administration, U.S. Department of Commerce