IMD ได้รายงานผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ปี 2568 (IMD World Competitiveness Rankings for 2025) โดยประเทศแอฟริกาใต้ ถูกจัดอันดับที่ 64 (จาก 69 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ)
รายงานระบุว่า แอฟริกาใต้ยังคงเผชิญปัญหาอัตราการว่างงานที่สูงและขาดโอกาสในการจ้างงาน รวมทั้ง การคอร์รัปชัน และการบริหารงานภาครัฐที่ไร้ประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนปัญหาระดับหนี้สาธารณะสูง
นาย Dawie Roodt นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของแอฟริกาใต้ ระบุว่า เหตุผลหลักที่ส่งผลให้ขีดอันดับความสามารถในการแข่งขันลดลง คือการบริหารจัดการของภาครัฐที่ไร้ประสิทธิภาพ นอกจากนี้ อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ของการลงทุนคือการขาดความมั่นใจในรัฐบาลแอฟริกาใต้ ส่งผลให้ขาดความมั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจ
ศาสตราจารย์ Waldo Krugell จากมหาวิทยาลัย North-West เห็นว่า ปัจจุบันอุปสรรคสำคัญของการลงทุน (ทั้งจากนักลงทุนในประเทศและจากต่างประเทศ) คือต้นทุนในการทำธุรกิจสูง และความไม่มั่นคงด้านนโยบาย ดังนั้น การปฏิรูปกฎระเบียบ (โดยไม่ต้องเพิ่มการเก็บภาษีหรือไม่เพิ่มการกู้ยืม) จะทำให้การประกอบธุรกิจมีต้นทุนถูกลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจแก่ภาคธุรกิจ เพิ่มการลงทุนและนำไปสู่การจ้างงานที่เพิ่มขึ้น
ศาสตราจารย์ Bonke Dumisa นักวิเคราะห์อิสระด้านเศษฐศาสตร์ ระบุว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง คือ ผู้ที่อยู่ในอำนาจการเมืองไม่มีเจตจำนงที่จะสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจเติบโตเร็วกว่าอัตราการเติบโตของประชากร นอกจากนี้ ความพยายามในการปฏิรูปกฎระเบียบถูกประนีประนอมโดยนักการเมืองและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมา นักลงทุนในประเทศจำนวนมากไม่เต็มใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมในท้องถิ่น แต่พวกเขาเลือกที่จะส่งผลกำไรไปต่างประเทศแทน
นาย Toby Chance (สมาชิกรัฐสภา สังกัดพรรค DA) โฆษกด้านการค้า อุตสาหกรรมและการแข่งชัน ชี้ว่า มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ต้องปฏิรูปกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชบัญญัติแก้ไขความเท่าเทียมในการจ้างงาน พระราชบัญญัติการเวนคืนที่ดิน พระราชบัญญัติเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของคนผิวดำในวงกว้าง (Broad-Based Black Economic Empowerment :B-BBEE) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของแอฟริกาใต้
ข้อมูลเพิ่มเติมและความเห็นของสำนักงานฯ : IMD ได้รายงานผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ปี 2568 (IMD World Competitiveness Rankings for 2025) จาก 69 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ โดยพิจารณาจากตัวชี้วัด 4 ปัจจัยหลัก ประกอบด้วย สมรรถนะทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพของภาครัฐ ประสิทธิภาพของภาคเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยประเทศ/เขตเศรษฐกิจ อันดับที่ 1 คือ สวิสเซอร์แลนด์ รองลงมาคือ สิงคโปร์ ฮ่องกง เดนมาร์ก UAE ไต้หวัน ตามลำดับ ส่วนจีน อันดับที่ 16 มาเลเซียอันดับที่ 23 (เพิ่มขึ้น 11 อันดับจากปีก่อน) ไทยอันดับที่ 30 (ลดลง 5 อันดับจากปีก่อน) สำหรับประเทศในทวีปแอฟริกา ได้ถูกประเมิน 6 ประเทศ โดยเคนยาอันดับที่ 56 บอตสวานาอันดับที่ 59 กานาอันดับที่ 61 แอฟริกาใต้อันดับที่ 64 (ลดลง 4 อันดับจากปีก่อน) ไนจีเรียอันดับที่ 67 และนามิเบียอันดับที่ 68 ทั้งนี้ ผลการจัดอันดับดังกล่าวได้สะท้อนและกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
เครดิตภาพ / ที่มาข้อมูล : www.iol.co.za
www.imd.org
ประมวลโดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย
มิถุนายน 2568
Thai 
English 
Chinese 
Japanese 
German