เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่โดดเด่นคือ การมองหาเครื่องดื่มเพื่อดับกระหายและคลายร้อน ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเครื่องดื่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มที่บรรจุไซส์ขนาดใหญ่ ซึ่งเคยได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อนปีก่อน และกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ในปีนี้ ด้วยจุดขายด้านปริมาณและราคา ความนิยมที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าเป็นหลัก ขณะเดียวกัน แบรนด์ต่างๆ ก็ได้พัฒนาและปรับกลยุทธ์ โดยชูจุดเด่นด้านสุขภาพ เช่น การลดปริมาณน้ำตาล การใช้สารให้ความหวานจากธรรมชาติ หรือการเติมส่วนผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น จากภาพรวมตลาดในช่วงต้นฤดูร้อนปีนี้ พบว่าเครื่องดื่มไซส์ใหญ่ยังคงสามารถรักษาความนิยมในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะพัฒนาไปสู่ความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านรสชาติ รูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์ และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
เทรนด์เครื่องดื่มไซส์ใหญ่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาด ส่งผลให้แบรนด์ชั้นนำ ในหลากหลายหมวดหมู่เริ่มปรับกลยุทธ์ โดยการเพิ่มทางเลือกบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่าและการบริโภคในปริมาณที่มากขึ้น ปัจจุบัน เครื่องดื่มบรรจุไซส์ขนาดใหญ่ครอบคลุม แทบทุกประเภทสินค้า อาทิ น้ำแร่ ชา น้ำอัดลม เบียร์คราฟต์ ไปจนถึงเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและเครื่องดื่มชูกำลัง ตัวอย่างเช่น แบรนด์ GUOZI CO. ซึ่งเดิมจำหน่ายชาปราศจากน้ำตาล ขนาด 500 มิลลิลิตร ได้เปิดตัวขนาดใหม่ 970 มิลลิลิตร เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการดื่มในชีวิตประจำวันที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ Oriental Leaves ซึ่งเป็นที่รู้จักในกลุ่มชาพรีเมียมเพื่อสุขภาพ เช่น ชามะลิและชาอู่หลง ก็ได้ขยายขนาดจาก 900 มิลลิลิตร เป็น 1.5 ลิตร โดยยังคงวางขายขนาดเดิมควบคู่กันไป
ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่หลายแห่งเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ภายใต้แบรนด์ของตนเอง (House Brand) เพื่อตอบรับกระแสความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ห้าง Ginza Shopping Plaza ซึ่งจัดจำหน่ายน้ำผลไม้ขนาด 1 ลิตรหลากหลายรสชาติ โดยจัดวางในจุดที่โดดเด่น และมียอดจำหน่ายเติบโตอย่างต่อเนื่อง พนักงานประจำจุดขายเปิดเผยว่า กลุ่มผู้บริโภคหลักของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะน้ำองุ่นแท้ 100% ซึ่งได้รับความนิยมสูงและติดอันดับสินค้าขายดีในหมวดเครื่องดื่ม
ขณะเดียวกัน ที่ห้าง RT-Mart เครื่องดื่มชาและน้ำผลไม้ขนาด 1 ลิตร ยังคงได้รับความนิยมสูง โดยมีการจัดวางเต็มพื้นที่บนชั้นวาง พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษ จากการสำรวจ พบว่าผู้บริโภคมองว่าราคา 9.9 หยวนต่อขวดขนาดใหญ่ 1 ลิตร มีความคุ้มค่า นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้วที่นำกลับมาใช้ซ้ำได้ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ดึงดูดใจในแง่ความประหยัดและรักษาสิ่งแวดล้อม
ความคุ้มค่า : ปัจจัยสนับสนุนความนิยมของเครื่องดื่มบรรจุขนาดใหญ่
จากการสำรวจตามซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ พบว่าเครื่องดื่มขนาดใหญ่ยังคงได้รับความนิยม อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้บริโภคหลักมักเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ซึ่งเห็นถึงความคุ้มค่าด้านปริมาณและราคาต่อหน่วย ยกตัวอย่างเช่น น้ำอัดลมขนาด 480 มิลลิลิตร ราคา 4.9 หยวน ขณะที่ขนาด 2,000 มิลลิลิตร จำหน่ายในราคาเพียง 8.9 หยวน ซึ่งคิดเป็นความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ขณะเดียวกัน กลุ่มนักศึกษาและกลุ่มวัยทำงานนิยมซื้อขวดใหญ่เพื่อใช้ในโอกาสสังสรรค์หรือรับประทานร่วมกัน ก็มีแนวโน้มเลือกใช้เครื่องดื่มขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถบริโภคร่วมกันได้ในราคาประหยัด อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะจากบรรจุภัณฑ์แบบขวดเล็ก
การวิเคราะห์ตลาดชี้ให้เห็นว่า ความคุ้มค่ายังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความนิยมของเครื่องดื่มขนาดใหญ่ โดยพบว่าราคาต่อ 100 มิลลิลิตร ของเครื่องดื่มขนาดใหญ่ มักต่ำกว่าขนาดปกติอย่างน้อยกว่าร้อยละ 20 จึงเหมาะสำหรับการบริโภคในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในครัวเรือน หรือการจัดงานสังสรรค์ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคบางส่วนยังคำนึงถึงความเหมาะสมของบรรจุภัณฑ์กับพฤติกรรมการบริโภค โดยระบุว่าหากนำไปบริโภคนอกบ้านจะเลือกขนาดเล็กเพื่อความสะดวก และกรณีเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวาน ผู้บริโภคบางกลุ่มก็ให้ความเห็นว่าขนาดเล็กช่วยควบคุมปริมาณการบริโภคน้ำตาลได้ดีกว่า ทั้งนี้ การผลิตเครื่องดื่มขนาดใหญ่ยังส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากสามารถลดต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นต้นทุนต่อมิลลิลิตร พบว่าขวดขนาด 1 ลิตรมีต้นทุนต่ำกว่าขวดขนาด 500 มิลลิลิตรเกือบสองเท่า
เทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
จากทิศทางตลาดปัจจุบัน คาดว่าเครื่องดื่มขนาดใหญ่จะยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ทั้งจากทางผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า และทางผู้ผลิตที่มีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งาน เช่น บรรจุภัณฑ์ที่พกพาง่าย หรือออกแบบให้เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง รวมถึงการผลิตเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์การบริโภคร่วมกันในโอกาสพิเศษ อีกทั้งกระแสรักสุขภาพยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด โดยปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำ หรือไม่มีน้ำตาล รวมถึงเครื่องดื่มที่ไม่มีสารเติมแต่ง
ข้อมูลจาก CMR ระบุว่า สัดส่วนตลาดน้ำดื่มไร้น้ำตาลในจีนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 ในปี 2563 เป็นร้อยละ 15 ในปี 2567 ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชัน และน้ำดื่มระดับพรีเมียมก็มีแนวโน้มเติบโต อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีการแข่งขันด้านราคาที่สูง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มเลือกซื้อในรูปแบบยกลังหรือแบบแพ็กมากขึ้นในภาพรวม แม้ผู้บริโภคจะยังคำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก แต่ปัจจัยด้านสุขภาพและพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคำนึงถึง
ข้อเสนอแนะ สคต. ณ นครเฉิงตู
จากการติดตามแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มในจีนช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา พบว่า เครื่องดื่มบรรจุขนาดใหญ่ (Large-size Beverages) ยังคงเป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพฤติกรรมผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ทั้งในด้าน ขนาดการบริโภค และ คุณค่าของสินค้า ซึ่งต้องตอบโจทย์ทั้งด้านความคุ้มค่าและคุณภาพด้านสุขภาพในเวลาเดียวกัน
ปัจจุบัน ผู้บริโภคจีนนิยมเลือกซื้อเครื่องดื่มแบบยกลังหรือแพ็กใหญ่ ผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce มากขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกและราคาประหยัดกว่าการซื้อจากหน้าร้าน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่ความต้องการบริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แบรนด์ชั้นนำในตลาดจีนได้ปรับกลยุทธ์ด้าน ขนาดบรรจุภัณฑ์ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แบรนด์หลักในตลาดได้ทยอยเปิดตัวเครื่องดื่มขนาดใหญ่ (1 ลิตร – 1.5 ลิตร) ครอบคลุมเกือบทุกหมวดสินค้า
ในขณะเดียวกัน กระแสรักสุขภาพยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการเติบโตของตลาด โดยเฉพาะ ในกลุ่ม เครื่องดื่มไร้น้ำตาล และเครื่องดื่มฟังก์ชันซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยควรเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ อีกปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อของผู้บริโภค คือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริง ทั้งในด้าน ความสะดวกในการใช้งานซ้ำ ความสะดวกในการเปิด-ปิดใช้งาน และความสะดวกในการพกพา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า ในด้านโครงสร้างต้นทุนผู้ประกอบการจีนมีการปรับกลยุทธ์โดยเน้นการผลิตสินค้าขนาดใหญ่ และเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ต้นทุนต่ำแต่คงคุณภาพ เพื่อลดต้นทุนต่อหน่วยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งในตลาด
ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการไทย จึงควรพิจารณาปรับกระบวนการผลิต และบริหารจัดการต้นทุนของบรรจุภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับสินค้าจีนในตลาด ทั้งนี้ ตลาดเครื่องดื่มในจีนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดแทบทุกฤดูกาล ผู้ประกอบการไทยจึงควรติดตามแนวโน้มตลาด และศึกษากลยุทธ์ของคู่แข่งอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า Premium Water , Functional Drink และ Low-sugar Sparkling Beverage ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตสูงและขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดจีน
———————————–
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเฉิงตู
มิถุนายน 2568
แหล่งข้อมูล
https://finance.sina.com.cn/cj/2025-06-12/doc-inezxhxa0395899.shtml
ภาพและแหล่งที่มา : thebangkokinsight