GDP ออสเตรเลียไตรมาสแรกซบเซา…ส่งสัญญาณเศรษฐกิจฝืดเคือง

รายงานโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยว่า การเติบโตของ GDP ออสเตรเลียไตรมาสเดือนมีนาคม 2568 ขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงร้อยละ 0.2 (GDP ต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 1.3) เป็นผลจากการใช้จ่ายภาครัฐลดลง 823 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 2 (ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2560) เนื่องจากภาครัฐมุ่งเน้นการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศเป็นหลัก อีกทั้ง โครงการด้านพลังงาน โทรคมนาคม รางรถไฟและถนนได้ดำเนินการเสร็จสิ้น รวมถึงการชะลอแผนการก่อสร้างบางโครงการทำให้การใช้จ่ายภาครัฐลดลง ประกอบกับสภาพอากาศที่แปรปรวน (น้ำท่วมและพายุไซโคลน) กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ การท่องเที่ยว การขนส่งและการส่งออกสินค้า ทำให้ภาคการค้าชะลอตัวลง เนื่องจากการส่งออกสินค้าพลังงาน (ถ่านหินและก๊าซ LNG) ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย การส่งออกภาคบริการท่องเที่ยวซบเซาลง การนำเข้าสินค้าลดลงโดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าทุนเป็นหลัก

สำหรับการใช้จ่ายในประเทศยังดำเนินไปอย่างรัดกุม แม้ว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายไปกับสินค้าหรือบริการที่จำเป็น อาทิ อาหาร ค่าเช่าที่พักอาศัย และค่าพลังงาน ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.7 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัยใหม่และโครงการก่อสร้างด้านต่างๆ เช่น วิศวกรรม การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า

การออมเงินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 จากการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 รวมถึงเงินสวัสดิการภาครัฐที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับลดลง การเติบโตของ GDP ต่อหัวลดลงร้อยละ 0.2 (ต่ำสุดตั้งแต่ไตรมาสกันยายน 2564) รายได้ประชาชาติสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.6 อัตราเงินเฟ้อไตรมาสเดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 (อัตราเงินเฟ้อต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 2.4) มาจากการเพิ่มขึ้นของราคาบ้าน ค่าบริการการศึกษา อาหารและเครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) ค่าพลังงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 ชดเชยการลดลงของกิจกรรมสันทนาการ การซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน โดยในเดือนพฤษภาคม 2568 ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงที่ร้อยละ 3.85 ในขณะที่อัตราการว่างงานเดือนเมษายน 2568 อยู่ที่ร้อยละ 4.1

ผลกระทบจากสถานการณ์ในตลาดโลก (ภาวะสงครามและความไม่แน่นอนของนโยบายของสหรัฐอเมริกา) มีผลให้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (The Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกลงจากร้อยละ 3.1 อยู่ที่ร้อยละ 2.9 ออสเตรเลียจะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากภาวะซบเซาของประเทศคู่ค้าหลัก ประกอบกับการบริโภคในประเทศที่ลดลง เนื่องจากการออมเงินของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น โดยความเชื่อมั่น รวมถึงการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชนที่ลดลงจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ธนาคารกลางออสเตรเลียพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง (ช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม) เพื่อกระตุ้นให้ครัวเรือนและธุรกิจใช้จ่ายเพื่อการบริโภคและการลงทุนมากขึ้น อีกทั้ง ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดว่า การเติบโตของ GDP ออสเตรเลียตลอดปี 2568 จะขยายตัวร้อยละ 1.8

……………………………………………………………………………………………………

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์

ที่มา:

www.abc.net.au/ ABS

thThai