ศูนย์ข้อมูลทางการค้าของอินเดียเปิดเผยว่า ดุลการค้าสินค้าของประเทศในเดือนพฤษภาคม 2568 ปรับตัวดีขึ้น โดยขาดดุลลดลงเหลือ 21.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากระดับ 26.42 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนเมษายนของปีเดียวกัน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ราว 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ดุลการค้าดีขึ้น ได้แก่ การนำเข้าที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันดิบและทองคำ ประกอบกับการที่อินเดียมีการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในปีงบประมาณ 2567–2568 (2024–2025) มีการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด (Certificates of Origin) ภายใต้ FTA รวมจำนวน 720,996 ฉบับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีการออกหนังสือรับรองจำนวน 684,724 ฉบับ และในช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม 2568 มีการออกใบรับรองฯ แล้วถึง 132,116 ฉบับ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.55 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สะท้อนถึงแนวโน้มการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีเพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกอินเดีย
ขณะเดียวกัน ภาคบริการของอินเดียยังคงรักษาสถานะเกินดุลอย่างแข็งแกร่ง โดยในเดือนพฤษภาคม 2568 มีมูลค่าส่งออก 32.39 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีดุลการค้าเกินดุลสุทธิ 14.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนความมั่นคงของดุลการชำระเงินโดยรวม
ปัจจุบัน อินเดียมีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่มีผลบังคับใช้แล้วรวม 13 ฉบับ ได้แก่ SAFTA, ISFTA (อินเดีย – ศรีลังกา), สนธิสัญญาอินเดีย–เนปาล, ข้อตกลงกับภูฏาน, ไทย, สิงคโปร์ (CECA), มาเลเซีย (CECA), ญี่ปุ่น (CEPA), เกาหลีใต้ (CEPA), อาเซียน, มอริเชียส (CECPA), สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (CEPA) และออสเตรเลีย (ECTA) ครอบคลุมทั้งการค้า สินค้า บริการ และการลงทุน ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของอินเดีย
นอกจากนี้ อินเดียยังมีข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้ารูปแบบ Preferential Trading Agreements (PTA) กับประเทศและกลุ่มเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ APTA (เอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วย บังกลาเทศ จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ลาว และศรีลังกา), MERCOSUR (บราซิล อาร์เจนตินา อุรุกวัย และปารากวัย) อัฟกานิสถาน และชิลี ซึ่งช่วยเปิดตลาดเชิงยุทธศาสตร์ และเป็นฐานในการต่อยอดสู่ FTA ในอนาคต
ในด้านความเคลื่อนไหวล่าสุด ณ เดือนมิถุนายน 2568 อินเดียเร่งเดินหน้าเจรจาและดำเนินความร่วมมือด้าน FTA กับหลายประเทศสำคัญ อาทิ:
- สหราชอาณาจักร: ได้ลงนาม FTA เมื่อ 6 พฤษภาคม 2568 โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีและสวัสดิการแก่แรงงานอินเดีย
- กลุ่ม EFTA: อินเดียได้หารือร่วมกับรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์เมื่อ 10 มิถุนายน 2568 เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติข้อตกลง TEPA ให้มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมการลงทุน วิจัยร่วม และการพัฒนาเทคโนโลยี
- สหรัฐอเมริกา: อยู่ระหว่างการเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าทวิภาคี โดยคาดว่าจะมีการลงนามในเฟสแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2568
- สหภาพยุโรป (EU): อินเดียได้เสร็จสิ้นรอบเจรจาครั้งที่ 11 และตั้งเป้าสรุปข้อตกลงภายในสิ้นปี 2568
- ชิลี: ได้เริ่มต้นการเจรจา CEPA และหารือความร่วมมือด้านแร่สำคัญและเทคโนโลยีสะอาด
- นิวซีแลนด์ โอมาน กาตาร์ และอาเซียน: อยู่ระหว่างการเจรจา FTA/CEPA โดยมีเป้าหมายครอบคลุมด้านบริการ การลงทุน และนวัตกรรม
บทสรุปเชิงนโยบาย
แนวโน้มการลดลงของดุลการค้าในปี 2568 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอินเดียในการใช้เครื่องมือทางการค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งในด้านการเจรจา FTA กับพันธมิตรเศรษฐกิจสำคัญ และการใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางภาษีอย่างเป็นระบบ อินเดียควรเร่งสานต่อความตกลงที่อยู่ระหว่างการเจรจา พร้อมยกระดับความเข้าใจของภาคเอกชนต่อกฎระเบียบระหว่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการส่งออกในระยะยาว และรักษาสถานะความมั่นคงทางเศรษฐกิจภายใต้บริบทเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน
แหล่งอ้างอิง
- India’s May trade deficit narrows to $21.88 bn amid New Delhi’s active FTA push, The Economic Times, June 16th, 2025, https://economictimes.indiatimes.com/news/economy/foreign-trade/indias-may-trade-deficit-narrows-to-21-88-bn-amid-new-delhis-active-fta-push/printarticle/121880812.cms
- Issuance of preferential certificates under FTAs rises, signals higher trade pact use by exporters, The Economic Times, June 16th, 2025, https://economictimes.indiatimes.com/news/economy/foreign-trade/issuance-of-preferential-certificates-under-ftas-rises-signals-higher-trade-pact-use-by-exporters/printarticle/121888551.cms
3. India’s FTA Network: Updates in 2025, India Briefing, June 11th, 2025, https://www.india-briefing.com/news/indias-fta-updates-2025-36271.html