กระแส Art Toy กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่ “Labubu” ของบริษัท Pop Mart จากจีน ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในหลายประเทศทั่วโลก แม้แต่กระทั่งเหล่าดาราคนดัง อย่าง Rihanna, Lisa BLACKPINK และ Dua Lipa ต่างก็เคยโพสต์ภาพคู่กับเจ้าตุ๊กตาตัวจิ๋วนี้บนโซเชียลมีเดีย รวมถึงในกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ที่ขณะนี้แฟนคลับจำนวนมากแห่เข้าคิวซื้อ Labubu ตามสาขาของร้าน Bubblify จนถึงขั้นต้องมีระบบจอง และจำกัดจำนวนการซื้อ โดยบทความนี้จะสำรวจปรากฏการณ์ Labubu ในฐานะกรณีศึกษา พร้อมชี้ให้เห็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในการต่อยอด Soft Power ผ่านการพัฒนา Art Toy ที่มีอัดลักษณ์แบบไทย ๆ เพื่อเจาะตลาดใหม่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปตะวันออก

ทำไม Labubu ถึงเป็นที่นิยม?

ความสำเร็จของ Labubu ไม่ได้เกิดจากความ “น่ารัก” เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการผสมผสานระหว่าง:

  • ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์: หน้าตาเจ้า Labubu ดูลึกลับ แปลกตา ขนฟู มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ได้ดูเด็กจนเกินไป จึงดึงดูดทั้งวัยรุ่นและวัยทำงาน
  • กลยุทธ์การขายจำนวนจำกัด (limited edition): รุ่นที่วางขายมักมีจำนวนจำกัด ทำให้เกิดความรู้สึก “ของมันต้องมี” คล้ายการซื้อสินค้าหรู
  • การเชื่อมโยงกระแสสื่อโซเชียลและความนิยมในสังคม: การที่เซเลบคนดังทั่วโลกเริ่มใช้เจ้า Labubu ช่วยส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ว่า มันไม่ใช่แค่ตุ๊กตา แต่มันคือ “เทรนด์”

ลูกค้า Labubu ในปรากเป็นใคร?

จากข้อมูลของ Bubblify แบรนด์เครื่องดื่มที่นำ Labubu มาจำหน่ายในสาธารณรัฐเช็ก ลูกค้ากว่าร้อยละ 75 เป็นผู้หญิง และส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น นี่แสดงให้เห็นถึง พลังของกลุ่มผู้บริโภคในยุโรปตะวันออก ที่มีความพร้อมในการใช้จ่าย และชื่นชอบของสะสมที่มีสไตล์เฉพาะตัว แม้จะยังไม่เกิดเหตุการณ์แย่งชิงเหมือนในลอนดอน แต่การที่ต้องจองล่วงหน้า จำกัดการซื้อ และมาพร้อมโปรโมชั่นเฉพาะ ก็สะท้อนให้เห็นว่า Labubu กลายเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่มาพร้อม “สถานะ” มากกว่าจะเป็นแค่ของเล่น

 

Art Toy คาแรคเตอร์ไทย จากวัฒนธรรมสู่ของสะสมร่วมสมัย ประเทศไทยมีต้นทุนด้านวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง มีเอกลักษณ์ชัดเจน และเป็นที่จดจำของชาวต่างชาติ เช่น มวยไทย ตุ๊กตุ๊ก นิทานพื้นบ้าน และอาหาร ซึ่งสามารถนำมาต่อยอดเป็น Art Toy ที่มีความร่วมสมัยได้อย่างน่าสนใจ ตัวอย่างแนวคิดที่สามารถพัฒนาได้ เช่น ตุ๊กตุ๊กมินิ ที่มีใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมลวดลายกราฟิกหรือแม้แต่ยักษ์วัดโพธิ์ แบบร่วมสมัย การนำวัฒนธรรมไทยมาออกแบบในรูปแบบร่วมสมัยเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ส่งเสริม Soft Power เท่านั้น แต่ยังสามารถพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์และการท่องเที่ยวได้อีกด้วย เช่น การขาย Art Toy คู่กับสินค้าอาหารไทย ขนมไทย หรือแม้แต่ร้านคาเฟ่ในเมืองใหญ่ของยุโรป สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ของเล่น แต่มันคือสื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ ที่ทั้งน่ารัก มีเรื่องเล่า และขายได้ โดยตลาดอย่างปรากกำลังโหยหา “อะไรใหม่ ๆ” จากเอเชีย Labubu แสดงให้เห็นว่าตลาดนี้เปิดใจอย่างมากกับ Art Toy ที่มีคาแรคเตอร์ชัดและดีไซน์โดดเด่น ดังนั้นจึงถึงเป็นโอกาสที่ไทยจะหยิบของที่เรามีอยู่แล้ว มาต่อยอดให้กลายเป็นสินค้าระดับโลก สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของธุรกิจ แต่นี่คือโอกาสในการส่งออกความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย สู่สายตาคนทั้งโลก

 

ข้อคิดเห็น/เสนอแนะของ สคต.

กระแส Labubu แสดงให้เห็นว่าความสำเร็จของ Art Toy ไม่ได้อยู่ที่ความ “ใหญ่” ของบริษัท แต่อยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ การเล่าเรื่อง และการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม “ความน่ารัก” ผสานกับ กลยุทธ์การตลาดที่ฉลาด ความพรีเมียมในตัวสินค้า และการเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ สามารถเปลี่ยนงานศิลปะตัวเล็ก ๆ ให้กลายเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่าหลายพันล้าน สำหรับไทย ถ้านำ “รากวัฒนธรรม” ของเรามาสร้างเป็น “คาแรคเตอร์ใหม่” ที่เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ทั้งในเอเชียและยุโรป ประเทศไทยมีโอกาสอย่างยิ่งในการพัฒนา Art Toy ที่มีความเป็นไทย เพื่อขยาย Soft Power และสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในตลาดใหม่อย่างสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งกำลังเปิดรับสินค้าที่มีความแปลกใหม่จากเอเชีย ในอนาคตข้างหน้าก็มีโอกาสสูงมากที่เราจะได้เห็น Art Toy คาแรคเตอร์ไทย ไปยืนอยู่ข้าง ๆ Labubu บนชั้นวางของนักสะสมทั่วโลก ดังนั้น เพื่อให้ก้าวสู่ตลาดสากลได้อย่างมั่นคง ผู้ประกอบการไทยที่สนใจควรศึกษาการตลาดภูมิภาคยุโรปตะวันออก ควบคู่กับการทำความเข้าใจข้อกำหนดทางการค้าในสหภาพยุโรปอย่างรอบด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดข้อจำกัดด้านการส่งออก และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว สำหรับปี 2567 สาธารณรัฐเช็ก นำเข้าสินค้าของเล่นจากต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 2,034 ล้านเหรียญสหรัฐ จากประเทศฮังการี จีน เยอรมนี โปแลนด์ สโลวาเกีย เดนมาร์ก ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเวียดนาม ตามลำดับ โดยนำเข้าสินค้าของเล่นจากประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 8.66 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.29 ทั้งนี้ อัตราภาษีศุลกากร สำหรับฟิกเกอร์สะสมประเภท Art Toy เช่น Labubu ซึ่งมักเป็นฟิกเกอร์พลาสติกขนาดเล็ก ไม่มีฟังก์ชันอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช้กลไก และเน้นการจัดแสดงหรือสะสมมากกว่าการเล่นตามนิยามของของเล่นทั่วไป จะจัดเป็น HS Code 9503.00.99  –  “Other toys” หรือ “Plastic figures for collection”  สินค้าในหมวดนี้ หากส่งออกจากประเทศไทยไปยังประเทศในสหภาพยุโรป จะได้รับสิทธิยกเว้นอากรนำเข้า (0%) ภายใต้หลักเกณฑ์ “Third Country Duty” ตามระเบียบ R1549/06 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาด Art Toy ไปยังภูมิภาคยุโรป โดยเฉพาะตลาดยุโรปตะวันออกที่กำลังเติบโต

thThai