นาย Parks Tau รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และการแข่งขันแห่งแอฟริกาใต้ กล่าวว่ายังไม่แน่นอนว่าสหรัฐฯจะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่สหรัฐฯเสนอเก็บแอฟริกาใต้ 30% ในเดือนกรกฎาคม 2568 อย่างไรก็ตาม คาดว่าแอฟริกาใต้และสหรัฐฯจะไม่ได้ข้อสรุปผลการเจรจาภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
โดยแอฟริกาใต้ได้เรียกร้องสหรัฐฯ ยังคงให้แอฟริกาใต้ได้รับสิทธิประโยชน์จากพระราชบัญญัติการเติบโตและโอกาสของแอฟริกา (Africa Growth and Opportunity Act :AGOA) ในระหว่างที่การเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ
สำหรับข้อเสนอที่แอฟริกาใต้จะเจรจากับสหรัฐฯ ครอบคลุมประเด็น อาทิ
- จัดซื้อแก๊สจากสหรัฐฯ รวมถึงการให้สหรัฐฯมาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแก๊สในแอฟริกาใต้ ตลอดจนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตแก๊สในแอฟริกาใต้
- เปิดตลาดสินค้าเกษตรระหว่างกัน โดยเสนอให้เนื้อวัว เนื้อสัตว์ เนื้อไก่ และบลูเบอร์รี่สหรัฐฯสามารถเข้าตลาดสู่แอฟริกาใต้ และขอให้สหรัฐฯ เปิดตลาดให้แก่มะม่วง ลิ้นจี่ ส้ม และ อะโวคาโดของแอฟริกาใต้
- ส่งเสริมการลงทุนสองทางในสาขาที่สำคัญ
- ร่วมมือด้านสินค้าแร่ธาตุที่สำคัญ สร้างความร่วมมือในการพัฒนาด้านการเงินระหว่างสองประเทศ
- มีส่วนร่วมด้านภาษีศุลกากรในลักษณะที่ไม่ทำลายการบูรณาการในภูมิภาคและปกป้องสหภาพศุลกากรภูมิภาคแอฟริกาใต้
- ร่วมมือด้านการค้าดิจิทัล
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าฯ กล่าวว่า สหรัฐฯเป็นคู่ค้าที่สำคัญของแอฟริกาใต้ โดยปี 2567 แอฟริกาใต้ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ 14.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ดุลบริการกับแอฟริกาใต้ กล่าวคือ สหรัฐฯ ส่งออกบริการ ไปยังแอฟริกาใต้ 3.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่แอฟริกาใต้ส่งออกบริการไปยังสหรัฐฯ 2.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังการปรับกลยุทธ์ภาคอุตสาหกรรม โดยมีการหารือภายในกระทรวงการค้าฯ และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่ภาคอุตสาหกรรมของแอฟริกาใต้
ข้อมูลเพิ่มเติมและความเห็นของสำนักงานฯ : ขณะนี้ ความสัมพันธ์สหรัฐฯกับแอฟริกาใต้อยู่ในภาวะสั่นคลอน หากสหรัฐฯ เพิ่มภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) 30% แก่สินค้าแอฟริกาใต้ ในเดือนกรกฎาคม 2568 และหากสหรัฐฯ ไม่ต่ออายุ พ.ร.บ.การเติบโตและโอกาสของแอฟริกา (AGOA) ที่จะหมดอายุในเดือนกันยายน 2568 (AGOA มีผลใช้บังคับเมื่อปี 2543 โดยอนุญาตให้สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมรายการที่กำหนดจากประเทศสมาชิกที่อยู่ในทวีปแอฟริกา 32 ประเทศ ซึ่งรวมถึงแอฟริกาใต้ด้วย สามารถส่งออกไปสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานของแอฟริกาใต้อย่างรุนแรง เนื่องจากปี 2567 สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกมูลค่ามากที่สุด อันดับที่ 2 (รองจาก จีน)
เครดิตภาพและที่มาข่าว : www.engineeringnews.co.za
ประมวลโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพริทอเรีย
มิถุนายน 2568