Hot Sale 2025 ของเม็กซิโกดันยอดขายออนไลน์พุ่ง สะท้อนศักยภาพอีคอมเมิร์ซ

กิจกรรม Hot Sale ประจำปี 2025 ของเม็กซิโก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2025 ได้สร้างความคึกคักในภาคการค้าดิจิทัล โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ของผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น Mercado Libre และ Walmart Mexico ที่ต่างก็ทำสถิติใหม่ทั้งในด้านยอดขายและประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์

Mercado Libre รายงานว่าสามารถจำหน่ายสินค้าได้กว่า 20 ล้านชิ้น หรือเฉลี่ย 1,500 รายการ ต่อนาที พร้อมจัดส่งสินค้ากว่า 10 ล้านบรรจุภัณฑ์ โดยกว่าครึ่งส่งถึงมือผู้บริโภคภายใน 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ วันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เป็นวันที่มียอดขายสูงสุด และมีผู้สมัครเข้าร่วมโปรแกรมสะสมคะแนนกว่า 10,000 ราย ในช่วงกิจกรรมดังกล่าว ขณะเดียวกัน Walmart Mexico รายงานว่ามียอดขายผ่านช่องทางดิจิทัล (GMV) เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในวันที่ 1 มิถุนายน 2025 มียอดขายออนไลน์สูงที่สุดของปี นอกจากนี้ ยังมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Walmart, Bodega Aurrera และ Sam’s Club เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าอุปโภคบริโภคแบบ On Demand ภายใต้ชื่อ Pronto ที่เติบโตขึ้นเป็นสองเท่า

กลุ่มสินค้าที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในช่วง Hot Sale ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และของใช้ภายในบ้าน เช่น Sony PlayStation 5, โทรศัพท์ Samsung Galaxy S25 และทีวี Samsung ส่วนสินค้าที่มีปริมาณการขายมากที่สุด ได้แก่ สินค้าเสริมอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นอกจากนี้ สินค้าประเภทอื่นๆ ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ พัดลม ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว และรถจักรยานยนต์

นาย Estefan Bonilla ผู้จัดการฝ่ายอีคอมเมิร์ซของ NIQ Mexico บริษัทระดับโลกที่เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคและข้อมูลตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG – Fast-Moving Consumer Goods) ให้ความเห็นว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในเม็กซิโกยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความสนใจต่อโปรโมชั่นออนไลน์ ตัวเลือกการซื้อสินค้าหลากหลายช่องทาง และบริการจัดส่งที่มีความยืดหยุ่น พร้อมระบุว่า กิจกรรม Hot Sale ในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือกระตุ้นยอดขาย แต่กำลังกลายเป็นกลไกสำคัญในการนิยามรูปแบบการบริโภคดิจิทัลในประเทศเม็กซิโก

แนวโน้มตลาดออนไลน์ของเม็กซิโกมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2025 โดยคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 20.8 คิดเป็นมูลค่า 5.09 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากอัตราการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การรวมฟีเจอร์การชำระเงินและการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยเฉพาะ Facebook ที่ครองส่วนแบ่งตลาดหลัก ด้วยจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมากและเครื่องมือโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ TikTok ก็เริ่มขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาดจากแนวโน้มดังกล่าว ธุรกิจในเม็กซิโกจึงมีแนวโน้มที่จะปรับกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น โดยเน้นการนำเสนอสินค้าอย่างเฉพาะเจาะจง มีความยืดหยุ่น และเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้ใช้งานบนโซเชียลมีเดียมากยิ่งขึ้น

โอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีความพร้อมในการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งสื่อโซเชียลมอย่าง TikTok หรือ Instagram เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชันและรับข้อมูลจากคอนเทนต์ออนไลน์ ผู้ประกอบการไทยที่อาจพิจารณานำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ เพื่อเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ในภูมิภาคลาตินอเมริกา กระแสความนิยมของอินฟลูเอนเซอร์และคอนเทนต์รีวิวสินค้าเองก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเช่นกัน การสร้างคอนเทนต์ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ท้องถิ่นเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มการรับรู้แบรนด์สินค้าไทยได้อย่างดี กระแสอีคอมเมิร์ซในเม็กซิโกที่เกิดขึ้นในปี 2025 สะท้อนถึงโอกาสทางการค้าที่น่าสนใจ และอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าไทยในตลาดลาตินอเมริกา

 

——————————————————————

ที่มา

Mexico Business

https://mexicobusiness.news/ecommerce/news/hot-sale-2025-boosts-mexicos-digital-retail

thThai