สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์สร้างศูนย์กลาง AI ที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในข้อตกลงให้สร้างศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence : AI)  ที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายข้อตกลงเกี่ยวกับ AI ที่เกิดขึ้นระหว่างการเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยูเออีและสหรัฐอเมริกาได้ลงนามในข้อตกลงให้ประเทศใน GCC สร้างศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใหญ่ที่สุดนอกสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เคยเผชิญกับข้อจำกัดในอดีต เนื่องจากความกังวลของสหรัฐว่า ประเทศจีนอาจเข้าถึงเทคโนโลยีดังกล่าวได้

โดยสหรัฐอนุญาตให้ยูเออีนำเข้าชิป Nvidia H100 ประมาณ 500, 000 ชิ้นต่อปี  ซึ่งเป็นชิปที่ทันสมัยที่สุดที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกัน ซึ่งจะช่วยเร่งความสามารถของยูเออีในการพัฒนา data center ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนโมเดล AI ของประเทศ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยูเออีลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI โดยมุ่งหวังที่จะตั้งตัวเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลก ส่วนสำคัญในความฝันนี้คือเซมิคอนดักเตอร์จากสหรัฐ ซึ่งจนถึงปัจจุบันประเทศกลุ่ม GCC เคยถูกจำกัดจากสหรัฐ เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ

สถานการณ์นี้ได้ถูกเปลี่ยนแปลง เนื่องจากฝ่ายบริหารของรัฐบายทรัมป์ได้ประกาศยกเลิกกฎระเบียบการส่งออกแบบ “AI diffusion rule” ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ยุคของรัฐบาลไบเดน ซึ่งเข้มงวดเรื่องการส่งออกชิป AI ระดับสูง ไปจนถึงประเทศที่เป็นมิตรกับสหรัฐ

รายละเอียดศูนย์กลาง AI ใหม่ในอาบูดาบี

ศูนย์วิจัยและศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตั้งอยู่ที่กรุงอาบูดาบี โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลกและเป็นแพลตฟอร์มสำหรับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ ในการให้บริการคลาวด์และ AI ทั่วภูมิภาค

ศูนย์ฯ มีขนาด 10 ตารางไมล์ (ประมาณ 25.9 ตารางกิโลเมตร) และมีกำลังไฟฟ้า 5 กิกะวัตต์ รองรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับงาน AI บริษัท G42 ของอาบูดาบีจะเป็นผู้ก่อสร้างและดำเนินงาน โดยมีบริษัทอเมริกันเป็นผู้บริหารจัดการศูนย์ข้อมูลและบริการคลาวด์ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมความปลอดภัยของสหรัฐฯ ศูนย์ฯ นี้จะให้บริการแก่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ (US hyperscalers) และบริษัทที่ได้รับอนุมัติเท่านั้น พร้อมมาตรการป้องกันการเข้าถึงเทคโนโลยีโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข้อตกลงและมาตรการด้านความมั่นคง

ยูเออีจะลงทุนหรือสนับสนุนการสร้างศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ ที่มีขนาดและศักยภาพเทียบเท่ากับทีอาบูดาบี และยูเออีให้คำมั่นจะปรับมาตรการด้านความมั่นคงให้สอดคล้องกับมาตรฐานของสหรัฐฯ และมีระบบควบคุมเข้มงวดเพื่อป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังประเทศที่สาม เช่น จีน ซึ่งข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกชิป AI ขั้นสูง โดยเฉพาะชิป Nvidia H100 ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการส่งต่อไปยังจีน

เบื้องหลังและความสำคัญ

ยูเออีลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI หวังเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก และสร้างสมดุลระหว่างพันธมิตรเก่าอย่างสหรัฐฯ กับคู่ค้ารายใหญ่คือจีน

ข้อตกลงนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำบริษัทเทคโนโลยี AI ระดับโลก เช่น Nvidia, OpenAI และ Amazon Web Services เพราะจะช่วยขยายตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ฝ่ายสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าศูนย์ฯ นี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทอเมริกันและมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงอย่างเข้มงวด

ความท้าทายและข้อกังวล

แม้จะมีมาตรการควบคุม แต่ผู้เชี่ยวชาญและฝ่ายนิติบัญญัติบางส่วนในสหรัฐฯ ยังกังวลว่าเทคโนโลยีอาจรั่วไหลไปถึงคู่แข่ง เช่น จีน โดยเฉพาะเมื่อบริษัทจีนบางแห่งยังมีบทบาทในตลาดยูเออี นอกจากนี้   ยูเออีได้เริ่มถอนฮาร์ดแวร์และลดการลงทุนจากจีนตามแรงกดดันของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทจีนขนาดใหญ่อย่าง Huawei และ Alibaba Cloud ยังคงมีบทบาทใน ยูเออี และมีรายงานว่ามีการลักลอบส่งออกชิป AI ไปยังจีนผ่านประเทศอย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ และยูเออี ตามแหล่งข่าวจาก Reuters เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ความเห็นของสคต.ดูไบ

การจับมือระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับสหรัฐฯ ในการสร้างศูนย์กลาง AI ที่ใหญ่ที่สุดนอกอเมริกานี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของภูมิภาคตะวันออกกลางในการเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีโลก ขณะเดียวกันก็เป็นความท้าทายด้านความมั่นคงและการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างมหาอำนาจที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด  ศูนย์ AI ในอาบูดาบีจะเร่งให้เทคโนโลยี AI ก้าวหน้าและกระจายตัวเร็วขึ้นทั่วโลก ทั้งในแง่โครงสร้างพื้นฐาน การเข้าถึงเทคโนโลยี นวัตกรรม และการกำกับดูแล พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจและความร่วมมือในเวทีเทคโนโลยีระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญ

—————————————————

thThai