มาเลเซียเปิดฉากการเจรจา FTA อย่างเป็นทางการกับกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC)

ที่มา : สำนักข่าว Berita Harian

รัฐบาลมาเลเซียได้เริ่มต้นการเจรจาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ร่วมกับกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council – GCC) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคีระหว่างสองฝ่าย

กลุ่ม GCC ประกอบด้วย 6 ประเทศสมาชิก ได้แก่ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย เติงกู ดาตุก เซอรี ซัฟรุล อับดุล อาซิซ ระบุว่า GCC เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญที่สุดของมาเลเซียในภูมิภาคตะวันออกกลาง และความตกลง FTA ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ถือเป็นเวทีเชิงกลยุทธ์ในการจัดระเบียบความร่วมมือใหม่

“FTA มาเลเซีย–GCC ไม่ได้เป็นเพียงข้อตกลงด้านการค้า แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันโครงการนี้จึงมีความสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนความร่วมมือไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและความครอบคลุมร่วมกัน” เติงกู ซัฟรุล กล่าว

ความตกลงดังกล่าวจะครอบคลุมหลายด้าน ทั้งการค้าสินค้าและบริการ การลงทุน การอำนวยความสะดวกทางการค้า ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภาพรวม

ในปี 2567 มูลค่าการค้ารวมระหว่างมาเลเซียกับกลุ่ม GCC อยู่ที่ 22,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 101,800 ล้านริงกิต โดยสินค้าส่งออกหลักของมาเลเซีย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาหารแปรรูป

กระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย (MITI) ระบุว่า การเจรจา FTA ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดอุปสรรคด้านภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี ส่งเสริมการเคลื่อนย้ายทางธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพในการประสานงานด้านกฎระเบียบระหว่างกัน

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการผลักดันความตกลง FTA นี้ให้สามารถตอบสนองต่อความท้าทายของระบบการค้าโลกในปัจจุบัน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ครอบคลุม และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

“การเปิดฉากการเจรจาในครั้งนี้ สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของมาเลเซียในการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับกลุ่มความร่วมมือที่มีศักยภาพสูงอย่าง GCC โดยรัฐบาลมาเลเซียมีความหวังว่ากระบวนการเจรจาจะดำเนินไปอย่างสร้างสรรค์ และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเศรษฐกิจของ
ทั้งสองฝ่าย” เติงกู ซัฟรุล กล่าวเพิ่มเติม

พิธีลงนามแถลงการณ์ร่วมเพื่อเปิดตัวการเจรจาดังกล่าว จัดขึ้นนอกกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีเติงกู ซัฟรุล และเลขาธิการ GCC นายจาเซม โมฮาเหม็ด อัลบูดาอวีลงนามร่วมกัน

พิธีดังกล่าวจัดขึ้นโดยมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดาโต๊ะ เซรี อันวาร์ อิบราฮิม และมกุฎราชกุมารแห่งคูเวต เชค ซาบาห์ คอลิด อัลฮามัด อัลซาบาห์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

 

บทวิเคราะห์ผลกระทบ

การเปิดฉากการเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างมาเลเซียและกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) เพื่อจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) นับเป็นพัฒนาการที่สำคัญในเวทีเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในบริบทของความเชื่อมโยงระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง

สำหรับประเทศไทย ในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนและหุ้นส่วนทางการค้าของทั้งสองฝ่ายการเจรจาครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลเชิงบวกในหลายด้าน เช่น การลดอุปสรรคทางการค้าและภาษีระหว่างภูมิภาค การส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ และการสร้างโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ GCC ผ่านเครือข่ายโลจิสติกส์และการค้าในมาเลเซีย

ความตกลง FTA ฉบับนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของประเทศในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางในการร่วมกันรับมือกับความท้าทายของเศรษฐกิจโลก และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุม และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

 

ความคิดเห็น สคต.

สำนักงานฯ มึความเห็นว่า การเจรจาความตกลง FTA ระหว่างมาเลเซียและ GCC ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับตะวันออกกลาง ซึ่งจะช่วยสร้าความต่อเนื่องและเสริมพลังในการส่งออกของไทยผ่านตลาดมาเลเซียที่เป็นประตูสู่ GCC

สำนักงานฯ พร้อมติดตามความคืบหน้าในการเจรจาอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลเชิงลึกและโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องแก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอาหารแปรรูป อิเล็กทรอนิกส์ น้ำมันปาล์ม และผลิตภัณฑ์ฮาลาล เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากความตกลงนี้ในอนาคต

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

thThai