ฮ่องกงเดินหน้า 5 มาตรการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผู้สูงวัย (Silver Economy)

Mr. John Lee Ka-chiu ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ประกาศจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ พร้อมเตรียมเปิดเผย 5 มาตรการสำคัญ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในกลุ่มผู้สูงวัย และวางรากฐานด้านโครงสร้างเศรษฐกิจให้สอดรับกับ การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร

 

ผู้บริหารฯ เปิดเผยว่า คณะทำงานเพื่อส่งเสริม Silver Economy หรือเศรษฐกิจผู้สูงวัย ซึ่งมี Mr. Warner Cheuk Wing-hing, deputy chief secretary เป็นหัวหน้าคณะ จะทำหน้าที่ประสานความร่วมมือ    จากหลากหลายภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มผู้สูงวัย

 

“คณะทำงานชุดนี้จะผนึกกำลังจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคสังคม เพื่อพัฒนาโซลูชันและบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้สูงวัย ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างแรงขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของฮ่องกง” Mr. Lee กล่าวก่อนเข้าสู่การประชุมคณะบริหารระดับสูงประจำสัปดาห์

 

Mr. Lee ระบุว่า คณะทำงานเตรียมประกาศนโยบายสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ (1) กระตุ้นการบริโภคของกลุ่ม      ผู้สูงวัย (2) ส่งเสริมอุตสาหกรรมและบริการที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงวัย (3) ส่งเสริมมาตรฐานคุณภาพของสินค้าและบริการในกลุ่ม Silver Economy (4) พัฒนากลไกคุ้มครองทางการเงินสำหรับผู้สูงวัย  และ (5) ส่งเสริมศักยภาพและบทบาทของผู้สูงวัยในตลาดแรงงาน ซึ่งคณะทำงานมีกำหนดแถลงรายละเอียดนโยบายทั้งหมดในช่วงบ่ายวันอังคารนี้

 

โดย ผู้บริหารฯ กล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจผู้สูงวัยถือเป็นตลาดผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง โดยรัฐบาลฮ่องกงคาดการณ์ว่า ภายในปี 2043 ประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปจะมีสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของประชากรทั้งเมือง ซึ่งหมายความว่า ในเวลานั้นกว่าหนึ่งในสามของเศรษฐกิจภาคการบริโภคของฮ่องกงจะมาจากกลุ่มผู้สูงวัย

 

แนวคิดเรื่อง เศรษฐกิจผู้สูงวัย เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่  Mr. Lee ระบุไว้ในสุนทรพจน์นโยบายประจำปี  เมื่อปีก่อน (policy address 2024) โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมรับมือสังคมสูงวัย และได้ผลักดันให้เกิดการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นเพื่อขับเคลื่อนนโยบายนี้อย่างเป็นรูปธรรม

 

ทั้งนี้ กลุ่มผู้สูงวัยในฮ่องกงถูกยกให้เป็นตลาดผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง ด้วยปัจจัยด้านเงินออม ความใส่ใจในคุณภาพชีวิต และความเต็มใจในการใช้จ่ายเพื่อตัวเอง ส่งผลให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่บริการด้านสุขภาพ การเงิน ที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล

 

นอกจากนี้ ฮ่องกงยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นตลาดเศรษฐกิจผู้สูงวัยที่มีศักยภาพเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รองจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย จากดัชนี Ageing Asia Silver Economy Index 2020–2025

 

ขณะเดียวกัน รายงานของ Ageing Asia บริษัทที่ปรึกษาในสิงคโปร์ ยังประเมินว่า มูลค่าตลาดผู้สูงวัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวแตะระดับ 4.56 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 หรือเติบโตถึง 43%

 

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

มาตรการของฮ่องกงในการส่งเสริมเศรษฐกิจผู้สูงวัย โดยเน้น 5 ด้านหลักนั้น เพื่อปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคต ซึ่งตลาด Silver Economy จะขยายใหญ่ขึ้น และกำลังกลายเป็นหนึ่งในแนวโน้มเศรษฐกิจที่สำคัญในหลากหลายประเทศ ผู้สูงวัยในฮ่องกงเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพสูง เนื่องจากมีเงินออมสะสม ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิต และมีความเต็มใจที่จะใช้จ่ายเพื่อตนเอง ทำให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการที่ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การดูแลสุขภาพ บริการทางการเงิน ที่อยู่อาศัย และการดูแลส่วนบุคคล  จากบริบทแนวโน้มความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ สามารถเป็นโอกาสทางการค้าของไทย ซึ่งมีศักยภาพในการส่งออกสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและสมุนไพร นอกจากนี้ การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับบริการดูแลผู้สูงวัย เช่น Medical Tourism จะช่วยดึงดูดผู้สูงวัยจากฮ่องกงให้เข้ามารับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพในไทยได้

 

แหล่งข้อมูล: https://www.scmp.com/news/hong-kong/hong-kong-economy/article/3311968/hong-kong-targets-elderly-consumers-new-silver-economy-drive

thThai