เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ถูกกำหนดให้เป็นวันเลือกตั้งทั่วไปของออสเตรเลียผลการนับคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการ (ร้อยละ 79 จากผลโหวตทั้งหมด) จาก 6 รัฐ 2 เขตปกครองตนเอง ซึ่งประกอบด้วย 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคแรงงาน (Australian Labor Party: ALP) หรือพรรคฝ่ายรัฐบาลมีนาย Antony Albanese เป็นหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมตรีออสเตรเลียคนปัจจุบัน และพรรค Liberal- National Coalition :LNP ซึ่งเป็นพรรคผสมระหว่างพรรค Liberal Party of Australia และพรรค National Party of Australia) มีนาย Peter Dutton หัวหน้าพรรค Liberal Party เป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงพรรคเล็กอื่นๆและกลุ่มผู้สมัครอิสระ ผลปรากฎว่า พรรคแรงงาน มีที่นั่งจำนวน 87 ที่นั่ง (จากสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 151 ที่นั่ง) ในขณะที่พรรค Coalition มีจำนวน 39 ที่นั่ง ทำให้พรรคแรงงานสามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากโดยไม่ต้องพึ่งพาการสนับสนุนจากกลุ่มผู้สมัครอิสระและพรรคเล็กอื่นๆ ถือว่าเป็นชัยชนะแห่งประวัติศาตร์การเลือกตั้งของพรรคแรงงานในการจัดตั้งพรรครัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก (ตั้งแต่ปี 2530 สมัยของนาย Bob Hawke มีจำนวน 86 ที่นั่ง และนาย Kevin Rudd มีจำนวน 83 ที่นั่ง)
ในทางกลับกันก็เป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ด้านนโยบายของพรรค Coalition ที่สูญเสียที่นั่งจำนวนมากให้กับพรรคแรงงานและพรรคเล็กอื่นๆ รวมถึงนาย Dutton ที่ไม่สามารถรักษาที่นั่งในเขตเลือกตั้งของตนและพ้นจากตำแหน่งผู้นำพรรคฝ่ายค้านไปอย่างผิดคาดทำให้พรรค LNP ขาดผู้นำพรรคกะทันหัน (อยู่ระหว่างการประชุมภายในพรรคเพื่อโหวตแต่งตั้งผู้นำพรรคคนใหม่โดยมี นาง Sussan Ley นาย Angus Taylor และนาย Dan Tehan เป็นผู้ร่วมชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่)
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ชาวออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งต่อเศรษฐกิจในประเทศเป็นอันดับแรก สอดคล้องกับนโยบายพรรคแรงงาน ซึ่งมุ่งเน้นในการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพที่สูงจากภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรัง แก้ไขปัญหาที่พักอาศัยและยกระดับระบบสวัสดิการด้านสุขภาพแก่เด็ก สตรีและผู้สูงอายุ ตลอดจนรักษาความสัมพันธ์ทางการค้าระดับทวิภาคีกับพันธมิตร เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายด้านภาษีของสหรัฐ รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน และชาวออสเตรเลียเชื่อมั่นว่านาย Albanese จะเป็นผู้นำที่เหมาะสมในฐานะนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เพื่อรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนในตลาดโลกและภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจออสเตรเลียจากนโยบายทรัมป์ได้ดีกว่านาย Dutton ผู้นำพรรค Coalition ซึ่งมีนโยบายบางส่วนสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ อาทิ การลดจำนวนเจ้าหน้าที่ภาครัฐ การกีดกันคนต่างชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและธุรกิจในสหรัฐฯต้องประสบกับความยากลำบากในปัจจุบัน (สินค้านำเข้าที่จำเป็นมีราคาสูงและประสิทธิภาพการผลิตลดลง)
ความสำเร็จของพรรคแรงงานในครั้งนี้ ทำให้นาย Antony Albanese เป็นนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งใหม่หลังจากดำรงตำแหน่งครบวาระตั้งแต่ John Howard ในปี 2547 ด้วยนโยบาย Better Future (No one is held back and no one is left behind) ไปสู่ Building Australia’s Future ที่เน้นการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตในประเทศและตลาดแรงงาน ปกป้องสิ่งแวดล้อมเพื่อลดปัญหาโลกร้อน ส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม ส่งเสริมการศึกษาและสวัสดิการครอบครัว ยกระดับความเป็นอยู่ของภาคครัวเรือนและชนพื้นเมืองในท้องถิ่น ลดปัญหาค่าครองชีพที่ภาคครัวเรือนและธุรกิจกำลังเผชิญอยู่ ตลอดจนเตรียมการรับมือกับความไม่แน่นอนในตลาดโลกด้านต่างๆ อาทิ นโยบายการค้า ภาวะสงคราม และความมั่นคงปลอดภัยในภูมิภาคที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในปัจจุบัน
…………………………………………………………………………..
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์
ที่มา:
www.smh.com.au/ www.abc.net.au/ www. www.9news.com.au