พลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ ประธานสภาบริหารแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีของเมียนมา ได้กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการวางแผนแห่งชาติว่า เมียนมาส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค. 68 ให้เป็นไปอย่างราบรื่น รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา การสาธารณสุข คมนาคม ไฟฟ้า พลังงาน ตลอดจนยกระดับเศรษฐกิจและสังคม และขยายการศึกษาด้านเทคโนโลยี ไปยังทั่วประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาภาคการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และขนาดย่อย (ธุรกิจ MSME) ให้มีความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการเชื่อมโยงการผลิตในเมียนมาสู่ห่วงโซ่การผลิตระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้งส่งเสริมการผลิตในเมียนมาทดแทนการนำเข้า ส่งเสริมการส่งออก รวมถึงป้องกันปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายและธุรกรรมการเงินนอกระบบ เพื่อการพัฒนาและเติบโตของเมียนมาอย่างยั่งยืน
ผลกระทบ/โอกาส แผนการพัฒนาของเมียนมา “เป็นโอกาส” ซึ่งส่งผลดีต่อประเทศเมียนมา เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของเมียนมา เช่น การพัฒนาภาคการเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร ธุรกิจ MSME การผลิตในเมียนมาทดแทนการนำเข้า การส่งออกจากเมียนมา
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอให้ภาคธุรกิจติดตามสถานการณ์และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และนำมาวิเคราะห์ปรับใช้เพื่อวางแผนหรือดำเนินการทางธุรกิจต่อไป โดยหากเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของเมียนมา ก็จะเป็นโอกาสของธุรกิจ สิ่งสำคัญคือสอดรับกับศักยภาพของธุรกิจที่มี และมีคู่ค้าหรือพันธมิตรธุรกิจในเมียนมา ที่เหมาะสม มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งไทยและเมียนมา ทั้งในระดับประเทศ ระดับธุรกิจ ระดับประชาชนผู้บริโภค
********************************************
ที่มา: นสพ.Global New Light of Myanmar
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง