รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจการค้าของประเทศชิลี ฉบับที่ 4 ประจำปี 2568

ภาพรวมเศรษฐกิจ 

• เศรษฐกิจของประเทศชิลีประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในภาพรวม GDP ลดลงที่ -0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมหดตัวลง -3.4% ภาคการลงทุนของชิลีเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.4% อัตราเงินเฟ้อภายในประเทศได้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.7% การนำเข้าและการส่งออกโดยรวมของชิลีเพิ่มขึ้นที่ 7.0% และ 6.1% ตามลำดับ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากราคาทองแดงในตลาดโลกในเดือนกุมภาพันธ์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่งผลให้สินค้ากลุ่มสินแร่ที่เป็นสินค้าส่งออกหลักเพิ่มขึ้นถึง 9.1% รวมมูลค่ากว่า 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 ชิลีมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าจากไทยมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน รวมมูลค่ากว่า 95.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 20.7% โดยสินค้าเด่นที่มีสัดส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้แก่ (1)เหล็กและเหล็กกล้า (2)ปลากระป๋อง (3)รถยนต์และส่วนประกอบ โดยเพิ่มขึ้นถึง 319.8%, 0% และ 39.4% ตามลำดับ ในส่วนของรายละเอียดในแต่ละด้านประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สคต. ณ กรุงซันติอาโก ขอสรุปรายละเอียด ดังนี้

1. การบริโภคภาคเอกชน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี )

การบริโภคภาคเอกชนของชิลีประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในภาพรวมหดตัวลง -3.4% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ชาวชิลีปรับลดค่าใช้จ่ายลงหลังจากช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่  ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้โดยกลุ่มสินค้าคงทน โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่ลดลง -6.0% สินค้าหมวดแอลกอฮอล์และยาสูบปรับลดลงด้วยเช่นกันที่ -5.2% อย่างไรก็ดี หมวดสินค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ยังขยายตัวได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ได้แก่ หมวดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค และหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า-สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี โดยเพิ่มขึ้น 7.9%, 7.5%, และ 4.9% ตามลำดับ

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568   ปรับระดับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากที่ระดับ 43.2  มาอยู่ที่ 45.4 เพิ่มขึ้น 5.1%

2.การลงทุน (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://www.bcentral.cl/)

บรรยากาศการลงทุนในภาครัฐและเอกชนของชิลีประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ในภาพรวมปรับตัวดีขึ้น โดยสะท้อนจากตัวเลขการขออนุญาตก่อสร้าง (คิดเป็นตารางเมตร) เพิ่มขึ้น จาก 5.1 แสนตรม. มาอยู่ที่ 5.6 แสนตรม. เพิ่มขึ้น 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการลงทุนก่อสร้างของภาคเอกชน สอดคล้องกับการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ที่เพิ่มขึ้นถึง 112.2%

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวมประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับระดับเพิ่มขี้นจาก 40.8 มาอยู่ที่ 46.1 เพิ่มขึ้น 12.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยภาคธุรกิจที่มีดัชนีความเชื่อมั่นสูงที่สุด 3 อันดับแรกได้แก่ (1) ภาคธุรกิจเหมืองแร่ (2) ภาคการค้า และ    (3) ภาคการผลิต โดยอยู่ที่ 52.9, 50.5 และ 46.1 ตามลำดับ

3. เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (ข้อมูลจากธนาคารกลางชิลี https://si3.bcentral.cl และสำนักงานสถิติแห่งชาติของชิลี https://www.ine.gob.cl)

อัตราการว่างงานของประเทศชิลีในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.4% ของจำนวนผู้ใช้แรงงานทั้งหมดในประเทศ หากพิจารณาแยกตามเขตการปกครอง แคว้นที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดคือ แคว้นตาราปาก้า ที่ 10.2% และแคว้นที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดคือ แคว้นลอสลาโกส และ แคว้นไอเซน ที่ 4.5%

อัตราเงินเฟ้อของประเทศชิลีในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.7% โดยสินค้า 3 หมวดแรก ที่ปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 12 เดือนนี้ ได้แก่ (1) หมวดที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (2) หมวดร้านอาหารและโรงแรม และ (3) หมวดการศึกษา โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 11.6%, 7.2% และ 5.7% ตามลำดับ

4. การส่งออก-นำเข้า (ข้อมูลจากกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของชิลี SUBREI – www.subrei.gob.cl)

การส่งออกสินค้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568  มีมูลค่ารวมที่ 18,387 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่

การนำเข้าของชิลีระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2568 มีมูลค่ารวมที่ 13,380 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.0% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่

จากตัวเลขการส่งออกของชิลีที่สูงกว่าตัวเลขการนำเข้า        ทำให้ชิลีได้ดุลการค้า จำนวน 5,007 ล้านเหรียญสหรัฐ

5. การค้าของชิลีกับไทย และกลุ่มประเทศอาเซียน (ข้อมูลสถิติทางการค้าจาก Global Trade Atlas)

ชิลีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2568 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 95.26 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 20.67% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า)   ซึ่งสินค้าที่นำเข้าจากไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• รถยนต์และส่วนประกอบ (36.20 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 39.42%)
• เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (17.78 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.80%)
• ปลากระป๋อง (11.84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น95%)
• ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง (55 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 33.51%)
• เหล็กและเหล็กกล้า (82 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 319.75%)

สำหรับตัวเลขการนำเข้าของชิลีจากกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

• ชิลีนำเข้าจากเวียดนาม 205.32 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 8.16%)
• ชิลีนำเข้าจากไทย 95.26 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 20.67%)
• ชิลีนำเข้าจากอินโดนีเซีย 70.74 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 9.21%)
• ชิลีนำเข้าจากมาเลเซีย 43.49 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 46.59%)
• ชิลีนำเข้าจากสิงคโปร์ 17.74 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 0.09%)

ชิลีส่งออกสินค้าไปยังประเทศไทยระหว่างเดือนมกราคม -กุมภาพันธ์ 2568 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 118.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 2.09% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) ซึ่งสินค้าที่ส่งออกไปยังไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

• ทองแดง (00 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -14.46%)
• แซลมอนและอาหารทะเล (04 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 61.71%)
• เยื่อกระดาษ (79 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง -15.09%)
• ผลไม้และผลิตภัณฑ์ธัญพืช (10.35 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 43.09%)
• สินแร่อื่น ๆ (86 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.78%)

สำหรับตัวเลขการส่งออกของชิลีไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนใน 5 อันดับแรก ได้แก่

• ชิลีส่งออกไปยังไทย 118.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 2.09%)
• ชิลีส่งออกไปยังเวียดนาม 63.93 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 18.53%)
• ชิลีส่งออกไปยังมาเลเซีย 17.08 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -67.05%)
• ชิลีส่งออกไปยังสิงคโปร์ 15.82 ล้านเหรียญสหรัฐ (ลดลง -67.43%)
• ชิลีส่งออกไปยังกัมพูชา 14.83 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 433.67%)

มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทย-ชิลี ระหว่างเดือนมกราคม – เดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ 213.47 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 9.62%)  โดยชิลีส่งออกสินค้าไปยังไทยมากกว่านำเข้าจากไทย ทำให้ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้าที่ 22.95 ล้านเหรียญสหรัฐ

_________________________

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก

เมษายน 2568