พลเอกอาวุโส มิน ออง ไลง์ ประธานสภาบริหารแห่งรัฐและนายกรัฐมนตรีของเมียนมา กล่าวในที่ประชุมว่า เมียนมาจะมุ่งเน้นการพัฒนาภายในประเทศ สาธารณสุข การศึกษา ในปีงบประมาณ 2568-2569 (เม.ย. 68 – มี.ค. 69) และตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) +3% โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน การขนส่ง ไฟฟ้า โซล่าเซล รวมทั้งส่งเสริมการส่งออก การจ้างงานและการผลิตในเมียนมาทดแทนการนำเข้า การพัฒนาด้านสาธารณสุขและการศึกษา เพื่อการเติบโตของเมียนมาทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม
ผลกระทบ/โอกาส นโยบายการพัฒนาของเมียนมาดังกล่าว “เป็นโอกาส” สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน การขนส่ง ไฟฟ้า โซล่าเซล เป็นโอกาสธุรกิจของสินค้าวัสดุก่อสร้าง โลจิสติกส์ รวมทั้งนโยบายส่งเสริมการส่งออกจาก
เมียนมา การจ้างงานและการผลิตในเมียนมาทดแทนการนำเข้า เป็นโอกาสของธุรกิจที่ปรับกลยุทธ์มาผลิตในเมียนมาหรือมีคู่ค้าที่ผลิตในเมียนมา เป็นต้น
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ขอให้ภาคธุรกิจติดตามสถานการณ์และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และนำมาวิเคราะห์ปรับใช้เพื่อวางแผนหรือดำเนินการทางธุรกิจต่อไป โดยหากเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของเมียนมา ก็จะเป็นโอกาสของธุรกิจ สิ่งสำคัญคือสอดรับกับศักยภาพของธุรกิจที่มี และมีคู่ค้าหรือพันธมิตรธุรกิจในเมียนมา ที่เหมาะสม มีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งไทยและเมียนมา ทั้งในระดับประเทศ ระดับธุรกิจ ระดับประชาชนผู้บริโภค
********************************************
ที่มา: นสพ.Global New Light of Myanmar
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง