สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ได้มีประกาศให้กำหนดมาตรฐานด้านสุขอนามัยของเครื่องสำอางที่ใช้บริเวณดวงตาและริมฝีปากให้เข้มงวดกว่าผลิตภัณฑ์อื่น เช่น อายแชโดว์ อายไลเนอร์ มาสคาร่า ลิปสติก และลิปกลอส เพื่อป้องกันการระคายเคืองและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น

เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้เครื่องสำอางได้อย่างปลอดภัย FDA ได้กำหนด “5 เงื่อนไขในการเลือกใช้เครื่องสำอาง” ที่ควรปฏิบัติตาม ได้แก่

1) เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากครบถ้วน – ตรวจสอบชื่อผลิตภัณฑ์ วิธีใช้ และวันหมดอายุอย่างละเอียดก่อนซื้อ

2) ตรวจสอบการขึ้นทะเบียนของผลิตภัณฑ์ – ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลจากแพลตฟอร์มเครื่องสำอางของ FDA ว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการอนุญาตหรือไม่

3) ใช้งานให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ – หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ผิดประเภท เช่น การใช้ดินสอเขียนขอบปากกับดวงตา

4) ตรวจสอบวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์ – หมั่นเช็คสภาพของผลิตภัณฑ์ หากพบว่ามีการเปลี่ยนสี กลิ่น หรือเนื้อสัมผัส ควรหยุดใช้ทันที

5) รักษาสุขอนามัยของอุปกรณ์แต่งหน้า – ควรทำความสะอาดแปรงและอุปกรณ์แต่งหน้าเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้ร่วมกับผู้อื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

นอกจากนี้ FDA ไต้หวันยังได้แนะนำแนวทางการใช้เครื่องสำอางอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพว่า อายแชโดว์: ควรใช้แปรงที่สะอาดและหลีกเลี่ยงการสัมผัสผลิตภัณฑ์โดยตรงเพื่อลดการปนเปื้อนของแบคทีเรีย อายไลเนอร์: ไม่ควรเขียนเกินแนวรากขนตาเพื่อลดการสัมผัสกับลูกตาโดยตรง มาสคาร่า: ควรบิดแปรงออกจากหลอดแทนการดึงแรง ๆ เพื่อลดการปนเปื้อนของอากาศและแบคทีเรียลิปสติก: ควรทำความสะอาดริมฝีปากก่อนทาเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย นอกจากนี้ การล้างเครื่องสำอางให้หมดจดมีความสำคัญไม่แพ้การแต่งหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณดวงตาและริมฝีปาก ซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสม

ปัจจุบัน ในตลาดไต้หวันมีแบรนด์สินค้าเครื่องสำอางไทยวางจำหน่ายในไต้หวันเป็นจำนวนไม่น้อย เช่น A Bonne, Yoko, Baby Bright, Snail White, Srichand, BOYA, 2P Original และ Pastel เป็นต้น โดยมักจะถูกวางขายตาม ร้านขายสินค้าสุขภาพและความงาม เช่น Watson’s, Cosmed และ Poya ได้รับความนิยมในกลุ่มตลาดกลาง-ล่างและกลุ่มผู้บริโภคอายุน้อย

ที่มา: Taipei Times / Economic Daily News (19 March 2025)

ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.

มูลค่าการนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางจากไทยของไต้หวันมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2567 ไต้หวันนำเข้าสินค้าเครื่อสำอาง (HS-Code: 3304) จากไทย คิดเป็นมูลค่า 7.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.26 เมื่อเทียบกับปี 2559 โดยสาเหตุที่แบรนด์สินค้าไทยได้รับการยอมรับที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคุณภาพและรูปลักษณ์สินค้าไทยที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สินค้าไทยยังเหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพผิวหนังของคนไต้หวันด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรให้ความระมัดระวังในการปฏิบัติตามระเบียบการนำเข้าของไต้หวันอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของสินค้าไทยและส่งเสริมให้มีการนำเข้าสินค้าจากไทยเพิ่ม่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมีปัญหาถูกตรวจพบว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด อาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลที่จะใช้สินค้าไทยตามไปด้วย

โดยสามารถตรวจสอบระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเครื่องสำอางของไต้หวันได้ บนเว็บไซต์ของ FDA ไต้หวัน ดังนี้ https://www.fda.gov.tw/ENG/law.aspx?cid=5062&cr=266388082

FDA ไต้หวันเตือนประชาชน ใช้ความระมัดระวังในการเลือกใช้เครื่องสำอาง

thThai