ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีเพิ่มเติม ขณะที่สหภาพยุโรปและแคนาดาออกมาตรการตอบโต้กลับ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่าจะยกระดับสงครามการค้าระดับโลกด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมกับสินค้าของสหภาพยุโรป ขณะที่ประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีมีมาตรการตอบโต้กลับต่ออัตราภาษีเช่นกัน
เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 25% มีผลบังคับใช้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเขาจะกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติมหากสหภาพยุโรปดำเนินการตามแผนที่จะเรียกเก็บภาษีตอบโต้กับสินค้าของสหรัฐฯในเดือนเมษายน ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า “ไม่ว่าพวกเขาจะเรียกเก็บกับเราเท่าไร เราก็จะเรียกเก็บกับพวกเขาเท่านั้น”
ความมุ่งมั่นอย่างมากในการขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้ความสัมพันธ์กับแคนาดาซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดและคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ตึงเครียดด้วยคำขู่อย่างต่อเนื่องของประธานาธิบดีทรัมป์เองว่าจะผนวกประเทศเพื่อนบ้านนี้กับสหรัฐฯ
แคนาดาซึ่งเป็นผู้ส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมรายใหญ่ที่สุดให้กับสหรัฐฯ ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 25% ต่อเหล็กและอลูมิเนียมจากสหรัฐฯ รวมถึงคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์กีฬา และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ธนาคารกลางของแคนาดายังปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่อาจหยุดชะงัก นาย Dominic LeBlanc รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของแคนาดากล่าวว่า “เราจะไม่ยืนดูเฉย ๆ ในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของเราถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม”
มาตรการตอบโต้กลับของสหภาพยุโรป
ข้อมูลของสถาบันวิจัยทางเศรษศาสตร์ Kiel จากประเทศเยอรมันระบุว่า 27 ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปนั้นมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าน้อยกว่า เนื่องจากมีสัดส่วนการส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมเพียงส่วนน้อยที่จะถูกเรียกเก็บภาษีเมื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ
สหภาพยุโรปเตรียมมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ครอบคลุมสินค้ามูลค่าสูงถึง 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่น ไหมขัดฟัน เพชร เสื้อคลุมอาบน้ำ และเหล้า โดยมาตรการตอบโต้นี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนหน้า แม้ว่าสินค้าเหล่านี้คิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของมูลค่าทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรป-สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของยุโรปได้เตือนว่ามาตรการเหล่านี้จะสร้างความเสียหายต่อภาคอุตสาหกรรมของตน
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาวว่าจะตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีเพิ่มเติมหากสหภาพยุโรปดำเนินการขึ้นภาษีกับสหรัฐฯตามแผนที่วางไว้ และยังวิจารณ์ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่ไม่สนับสนุนบริษัทเภสัชกรรมสหรัฐฯ ในขณะเดียวกันประเทศอื่นๆก็กำลังเตรียมวางแผนตอบโต้ กระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่าจีนจะปกป้องผลประโยชน์ของตน ส่วนนาย Yoshimasa Hayashi หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกล่าวว่าการเคลื่อนไหวนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
ประเทศพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ เช่น สหราชอาณาจักรและออสเตรเลียก็วิพากษ์วิจารณ์มาตรการภาษีของทรัมป์ แต่ยังไม่ดำเนินมาตรการตอบโต้ในทันที เช่นเดียวกับบราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเหล็กรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯกล่าวว่าจะยังไม่ตอบโต้ในทันที
การนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กของสหรัฐฯ ปี2023 – 2024 จำแนกตามประเทศต้นทาง
ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีเพิ่มเติม ขณะที่สหภาพยุโรปและแคนาดาออกมาตรการตอบโต้กลับ
การนำเข้าอลูมิเนียมของสหรัฐฯจำแนกตามประเทศนำเข้า ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีเพิ่มเติม ขณะที่สหภาพยุโรปและแคนาดาออกมาตรการตอบโต้กลับ
ตลาดหุ้นและผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
มาตรการภาษีเหล็กและอลูมิเนียมที่บังคับใช้ในวันพุธที่ 12 มีนาคม 2568 นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากมีการประกาศการขึ้นภาษีล่วงหน้า อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีทำให้บริษัทต่างๆ มีความกังวล โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์หรูและอุตสาหกรรมเคมี
จากข้อมูลของ LSEG บริษัทให้บริการข้อมูลและเทคโนโลยีทางการเงินพบว่าบริษัทใหญ่ๆ ของสหรัฐฯ กว่า 900 แห่งจากทั้งหมด 1,500 แห่งได้กล่าวกังวลถึงภาษีศุลกากรในระหว่างการประชุมรายงานผลประกอบการหรือในงานสัมมนาสำหรับนักลงทุนในปีนี้
นาย Guillaume Faury ประธานกรรมการบริษัท Airbus ให้สัมภาษณ์ว่า “เราอยู่ในสงครามการค้า และเมื่อสงครามการค้าเริ่มขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปและโตขึ้นด้วยตัวของมันเอง”
หุ้นของบริษัทผลิตชุดกีฬา Puma จากเยอรมนีร่วงลงเกือบหนึ่งในสี่ของมูลค่าหุ้นหลังจากแถลงผลประกอบการซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความกังวลว่าสงครามการค้าจะทำให้การใช้จ่ายของชาวอเมริกันลดลง
อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตเหล็กสหรัฐฯ มีความยินดีกับมาตรการภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมใหม่ โดยกล่าวว่าภาษีเหล็กของทรัมป์ในปี 2018 นั้นไม่ได้นำมาบังคับใช้อย่างจริงจังเพราะมีข้อยกเว้นมากมาย และราคาล่าสุดของอลูมิเนียมและเหล็กในสหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้นใกล้ระดับสูงสุด
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันการเงิน JP Morgan คาดการณ์ว่ามีโอกาส 40% ที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ และจะส่งผลเสียหายอย่างถาวรต่อความน่าเชื่อถือในด้านการลงทุนของประเทศ นอกจากนี้การเทขายหุ้นสหรัฐฯ อย่างรวดเร็วในเดือนมีนาคมทำให้กำไรที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำได้ทั้งหมดหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งได้หายไป
ผลิตภัณฑ์จากเหล็กและอลูมิเนียมที่จะได้รับผลกระทบจากภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์

ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีเพิ่มเติม ขณะที่สหภาพยุโรปและแคนาดาออกมาตรการตอบโต้กลับ

ความสัมพันธ์กับแคนาดาที่ย่ำแย่
ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดายังคงรุนแรงขึ้น ในแคนาดาเพลงชาติสหรัฐฯ ถูกโห่ไล่ในการแข่งขันฮอกกี้ และร้านค้าหลายแห่งนำสินค้าสหรัฐฯ ออกจากชั้นวาง นักท่องเที่ยวแคนาดาหลีกเลี่ยงการเดินทางไปสหรัฐฯ โดยยอดจองลดลง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะที่นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด กำลังเตรียมส่งมอบอำนาจให้กับ นายมาร์ก คาร์นีย์ ผู้นำพรรคเสรีนิยมที่ชนะการเลือกตั้งภายในพรรคเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมาร์ก คาร์นีย์กล่าวระหว่างเยี่ยมชมโรงงานเหล็กในออนแทรีโอว่า “ผมพร้อมที่จะเจรจากับประธานาธิบดีทรัมป์ในเวลาที่เหมาะสม โดยอยู่บนพื้นฐานของความเคารพต่ออธิปไตยของแคนาดาและแนวทางที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน” และเจ้าหน้าที่รัฐแคนาดาคนอื่น ๆ ก็มีกำหนดพบปะกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม 2568 นี้ รัฐมนตรีพลังงานของแคนาดากล่าวเพิ่มเติมว่า หากสหรัฐฯ ยังคงใช้ภาษีดังกล่าวต่อไป แคนาดาอาจใช้มาตรการตอบโต้กลับเพิ่มเติมอีก เช่น การจำกัดการส่งออกน้ำมันไปยังสหรัฐฯ หรือการเรียกเก็บภาษีการส่งออกแร่ธาตุ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก
ข้อมูลอ้างอิง Reuter
thThai