เว็บไซต์ www.researchandmarkets.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูล
แนวโน้มการตลาดและโอกาสในการขยายธุรกิจระดับโลก เปิดเผยว่า ในปี 2567 มูลค่า
มาส์กหน้าชนิดแผ่น หรือ Sheet Mask ในตลาดโลกมีมูลค่าอยู่ที่ 346 ล้านเหรียญสหรัฐ
และคาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 466.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2573 ทั้งนี้
ผลิตภัณฑ์จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 5.1 (ในปี 2567 – 2573)
จากรายงานพบว่า ในปี 2567 ประเทศสหรัฐฯ มีมูลค่าตลาดมาส์กหน้าชนิดแผ่น
อยู่ที่ 90.7 ล้านเหรียญสหรัฐและมีแนวโน้มที่ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จะเติบโตขึ้นทุกปี เนื่องจาก
ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภคชาวอเมริกัน
Grand View Research, Inc. บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก เผยถึง ปัจจัยสำคัญหลายประการ
ที่ช่วยขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าชนิดแผ่น Sheet Mask ให้เป็นที่ต้องการในตลาด
สหรัฐฯ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับการดูแลผิวพรรณของผู้บริโภคชาวอเมริกันที่เพิ่มขึ้น
เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งชาวอเมริกันจำนวนมากมักมองหาผลิตภัณฑ์ที่สามารถ
ตอบสนองความต้องการในการฟื้นฟู บำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ
และริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาวอเมริกันเห็นว่ามาส์กหน้าชนิดแผ่นนี้ให้ผลลัพธ์ที่เห็น
ได้ชัดเจน และสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังใช้งาน หรือภายในระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งรวดเร็วกว่าการมาส์กหน้าแบบครีมหลายเท่าตัว ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตมีการพัฒนาสูตร
นวัตกรรม และออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ มาส์กหน้าหลายชั้น มาส์กหน้าซิลิโคน
รวมถึงมาส์กหน้าที่มีส่วนผสม หรือสารสกัดพิเศษของโสม ทองคำ ถ่านกัมมันต์ หรือสารสกัด
จากธรรมชาติ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่
ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง และหลากหลายตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
ซึ่งนับเป็นส่วนช่วยในการผลักดันตลาดผลิตภัณฑ์มาส์กหน้า
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาความนิยมในผลิตภัณฑ์ K-Beauty หรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากประเทศ
เกาหลีนั้นได้รับความนิยมสูงในตลาดสหรัฐฯ โดยเฉพาะมาส์กหน้าชนิดแผ่น ซึ่งเป็นหนึ่งใน
ผลิตภัณฑ์เกาหลีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของชาวอเมริกัน เนื่องจาก K-Beauty นั้นโดด
เด่นในเรื่องของการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และนวัตกรรมการผลิตที่มีความพิถีพิถัน
ซึ่งช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ราคาย่อมเยา และปลอดภัย รวมทั้ง
ปัจจัยด้านอิทธิพลของสื่อโซเชียลมีเดีย และบุคคลที่มีชื่อเสียงออนไลน์ หรืออินฟลูเอนเซอร์
ด้านความงามเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก โดย
เฉพาะเมื่ออินฟลูเอนเซอร์ได้แบ่งปันประสบการณ์การใช้มาส์กหน้าชนิดแผ่นผ่านช่องทางโซ
เชียลมีเดียของตน ก็ได้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ และความนิยมให้กับผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก
ส่งผลให้ชาวอเมริกันต้องการซื้อใช้ตามคำแนะนำอย่างง่ายดาย โดยสื่อโซเชียลมีเดียที่นับว่า
สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดีในสหรัฐ ได้แก่ Instagram และ TikTok ซึ่งเป็น
แพลตฟอร์มที่มีชาวอเมริกันใช้งานกว่า 100 ล้านคนทั่วประเทศ โดยทั้ง 2 แพลตฟอร์มนั้นถือ
เป็นเครื่องมือสำคัญในกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคชาวอเมริกัน และเพิ่มยอดขายได้เป็น
อย่างดี
สำหรับบริษัทผู้ผลิตรายสำคัญของผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าชนิดแผ่น ได้แก่ บริษัท 3Lab
บริษัท Bio Republic Skin Care บริษัท DECLEOR บริษัท ES Cosmetic USA
บริษัท Estee Lauder, Inc. บริษัท Guangzhou Boss Biological Technique Ltd.
บริษัท Innisfree Co. Ltd. บริษัท Kracie Holdings Ltd. บริษัท Lancome Paris
บริษัท Sephora บริษัท The Face Shop Co. Ltd. บริษัท Tonymoly Co. Ltd.
และบริษัท Yunos Co. Ltd. เป็นต้น
สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายมาส์กหน้าชนิดแผ่นในปี 2567 สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
1. ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์
ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีสัดส่วนการขายมากที่สุด รองลงมา คือ
ร้านเภสัชกร หรือร้านขายยา และลำดับสุดท้าย คือ ร้านค้าสินค้าเฉพาะ ซึ่งหากรวมส่วนแบ่ง
รายได้ของทั้ง 3 ลำดับนี้ จะเห็นได้ว่าช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแบบออฟไลน์มีส่วนแบ่ง
รายได้รวมกันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 75 ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่องทางออฟไลน์มีสัดส่วนสูงนั้น มา
จากการที่ผู้บริโภคนั้นสามารถเห็นสินค้าจริง รวมทั้ง สามารถทดลองใช้สินค้าก่อนการซื้อ
นอกจากนี้ ที่ร้านค้าต่างๆ นั้น มักมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และให้ส่วนลดเพิ่มเติม เพื่อ
ดึงดูดให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์
ในปี 2567 ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์มีสัดส่วนการจำหน่ายมาส์กหน้าชนิดแผ่นอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 25 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมานิยมซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านทางออนไลน์ คือ ผลจากการที่ชาวอเมริกันหันมาซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะการซื้อของออนไลน์นั้นมีขั้นตอนที่ง่าย สะดวกสบาย ปลอดภัย และประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมาก ส่งผลให้ช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นและมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้มากกว่าช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์ได้ในอนาคต
ความคิดเห็นของสคต.นิวยอร์ก
เนื่องจากชาวอเมริกันให้ความสำคัญกับสุขภาพผิวมากขึ้นและหันมาซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะตลาดผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าชนิดแผ่นที่มีอัตราเติบโตอย่างเห็น
ได้ชัด และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงเป็นโอกาสที่ดีของมาส์กหน้าชนิดแผ่นจากประเทศไทยที่มีกระแสความนิยมในประเทศ
เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจพัฒนาผลิตภัณฑ์เน้นให้มีส่วนผสมจากสารสกัดธรรมชาติและเป็นมิตรต่อ
สิ่งแวดล้อม หรืออาจนำสมุนไพรไทยมาเป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์เพื่อสร้าง
ความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นในตลาด รวมทั้ง ศึกษากลุ่มเป้าหมาย เพื่อการวางแผน
กลยุทธ์ช่องทางการเข้าสู่ตลาดอย่างมีศักยภาพ จะช่วยส่งเสริมผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าของ
ไทยสามารถได้รับความนิยมในตลาดสหรัฐฯ ตลอดจนสามารถสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ
ได้ในอนาคต
https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/sheet-face-mask-market
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก