ตามรายงานของกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ (DoT) ระบุว่ารายได้จากการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ มีมูลค่า 7.61 แสนล้านเปโซ ในปี 2567 โดยเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.04 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ โดยรายได้ในปี 2567สูงกว่าระดับรายได้ในปี 2562 ที่ 6.00 แสนล้านเปโซ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 126.75 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19
นาง Christina Frasco รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ระบุว่าเห็นได้ชัดว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์ไม่เพียงแต่มีการฟื้นตัว แต่ยังมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมความมั่นคงและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ โดยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ได้เสริมว่าในปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการเติบโตอย่างโดดเด่นในด้านรายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งสูงกว่าสถิติของปีก่อนหน้า ซึ่งความสำเร็จนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างงานหลายพันตำแหน่งสำหรับชาวฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและช่วยให้ครอบครัวของชาวฟิลิปปินส์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (World Travel & Tourism Council : WTTC) ระบุว่าตัวเลขการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในฟิลิปปินส์อยู่ที่ 2,073 เหรียญสหรัฐฯ และเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาที่นักท่องเที่ยวใช้เวลาเฉลี่ยในปี 2562 อยู่ที่ 9 คืน ขณะที่ในปี 2567 นักท่องเที่ยวใช้เวลาเฉลี่ยมากกว่า 11 คืน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยว ร้อยละ 70 ที่มาเยือนเป็นนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาฟิลิปปินส์แล้วอีกด้วย
กระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ (DoT) ระบุว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนฟิลิปปินส์ในปี 2567 มีจำนวนประมาณ 5.95 ล้านคน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.15 จากปี 2566) แต่ยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7.7 ล้านคน โดยจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงจำนวน 5.44 ล้านคน (ร้อยละ 91.42)เป็นชาวต่างชาติ ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศมีจำนวน 510,383 คน(ร้อยละ 8.58) โดยนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด มีจำนวน 1.57 ล้านคน (ร้อยละ 26 ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด) โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 จากปี 2566 โดยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ กล่าวเสริมว่าการเติบโตของนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่เดินทางมายังฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น นั้นเกิดจากการดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบิน รวมถึง การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในโอกาสที่ทั้งสองประเทศเฉลิมฉลองครบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต นอกจากนี้ การที่ฟิลิปปินส์เป็นที่ยอมรับเพิ่มขึ้นในฐานะจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการท่องเที่ยวจึงมีบทบาทที่สำคัญในการดึงดูดบริษัทเกาหลีใต้ซึ่งได้จัดการเดินทางมายังฟิลิปปินส์เพื่อเป็นรางวัลแก่พนักงาน นอกจากนี้ รายงานยังระบุข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังฟิลิปปินส์โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจาสหรัฐอเมริกามีจำนวน 947,891 คน ด้วยการได้รับแรงหนุนจากเที่ยวบินตรงจากเมืองซานฟรานซิสโก-มะนิลา โดยสายการบิน United Airlines รวมถึงเที่ยวบินตรงใหม่จากเมืองซีแอตเทิล โดยสายการบิน Philippine Airlines ขณะที่นักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น มีจำนวน 388,316 คน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 27) ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีน มีจำนวน 312,222 คน อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากจีนยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาดโควิด-19 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์ (DoT) ยังเสริมว่าเรือสำราญที่นำนักท่องเที่ยวเข้าสู่ฟิลิปปินส์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ผ่านโครงการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ดีขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ Business World
บทวิเคราะห์และข้อคิดเห็น
- อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ จากการเปิดเผยจำนวนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของฟิลิปปินส์มีการขยายตัวดีขึ้นและมีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มากกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์มีแผนกระตุ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่องเพื่อต้องการให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยล่าสุดได้ออกพระราชบัญญัติการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (RA 12079) ทั้งนี้ คาดว่า
จะช่วยส่งผลดีต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ รวมถึงผู้ประกอบการไทยที่เข้ามาลงทุนในฟิลิปปินส์ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านนวด และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศฟิลิปปินส์ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสสำหรับการส่งออกสินค้าต่างๆ ของไทยเข้ามารองรับกับความต้องการที่จะเพิ่มมากขึ้นในระยะต่อไปด้วย
—————————————
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา
มกราคม 2567