เมืองหนานหนิง เป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงที่ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของจีน โดยมีชายแดนติดกับประเทศเวียดนาม ซึ่งได้รับคำขนามนามว่าเป็น “ประตูเปิดสู่อาเซียนของจีน” ทั้งนี้ เมืองหนานหนิงมีความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งที่ใกล้กับอาเซียน และเป็นเมืองที่จัดงาน China-ASEAN Expo (CAEXPO) เป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ เมืองหนานหนิงยังได้รับคำขนามนามว่า “เมืองสีเขียว” เนื่องจากเมืองหนานหนิงเป็นเมืองที่มีต้นไม้เป็นจำนวนมาก โดยมีป่าไม้ครอบคลุมประมาณร้อยละ 48 มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAA ขึ้นไปจำนวน 98 แห่ง และมีต้นไม้ครอบคลุมสองข้างทางในเมืองมากกว่ารัอยละ 89 สิ่งที่สำคัญคือ เมืองหนานหนิงยังได้รับคำขนามนามว่า “เมืองแห่งจักรยานไฟฟ้า”

จักรยานไฟฟ้ารูปแบบการเดินทางที่น่าจับตามองในเมืองหนานหนิง

ตัวเลขจากหน่วยงานทางการของเมืองหนานหนิง พบว่า เขตฯ กว่างซีมีจักรยานไฟฟ้า จำนวนทั้งหมด 20 ล้านคัน โดยคิดตามประชากรของเขตฯ กว่างซี จำนวน 50 ล้านคน สามารถพูดได้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วคนกว่างซีทุก 2.5 คน จะมีจักรยานไฟฟ้า 1 คัน

สำหรับเมืองหนานหนิงมีจักรยานไฟฟ้า จำนวน 4.85 ล้านคัน เป็นเมืองอันดับที่ 3 ในประเทศจีนรองลงมาจากนครเซี่ยงไฮ้ และนครเทียนจิน ขณะเดียวกันจักรยานไฟฟ้าที่ขึ้นทะเบียนใหม่ในแต่ละวันโดยเฉลี่ยแล้วมีจำนวนถึง 2,000 คัน ปัจจุบันเมืองหนานหนิงมีประชากร 8.94 ล้านคน ก็สามารถพูดได้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว คนหนานหนิงทุก 2 คนมีจักรยานไฟฟ้า 1 คัน นอกจากนี้ หากเทียบจํานวนรถยนต์ส่วนบุคคลในเมืองหนานหนิง ที่มีจำนวน 2.43 ล้านคัน จะน้อยกว่าจำนวนจักรยานไฟฟ้าประมาณ 1 เท่าตัว

ดังนั้น เกือบทุกบ้านในเมืองหนานหนิงจะมีจักรยานไฟฟ้า และหากไม่มีครอบครองก็ยังมีจักรยานไฟฟ้าสาธารณะตามถนนไปในทั่วเมือง โดยเฉพาะบริเวณทางเข้า/ออกสถานีรถใต้ดินและบริเวณหน้าหมู่บ้าน ซึ่งนำความสะดวกในการเดินทางของผู้คนได้เป็นอย่างดี

 

เหตุที่ทำให้จักรยานไฟฟ้าในเมืองหนานหนิงเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อปี 2546 เมืองหนานหนิงออกมาตรการห้ามขับขี่จักรยานยนต์ในเขตเมือง ทำให้จักรยานไฟฟ้าเติบโตพุ่งสูงขึ้นเป็นหลายเท่าตัวหลังจากดำเนินการมาตรการดังกล่าว 3 ปี ก่อนออกมาตรการ เมืองหนานหนิงยังเป็น “เมืองจักรยานยนต์” โดยมีประชากรไม่ถึง 5 ล้านคน แต่มีจักรยานยนต์เป็น 0.2 ล้านคัน เมื่อปี 2549 จำนวนจักรยานไฟฟ้าของเมืองหนานหนิงเพียงแต่ 6 หมื่นคัน แต่ถึงปี 2558 พุ่งสูงเป็น 1.5 ล้านคัน  โดยเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 0.16 ล้านคันต่อปี

จักรยานไฟฟ้ารูปแบบการเดินทางที่น่าจับตามองในเมืองหนานหนิง

ระหว่างปี 2558 – 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 3.62 ล้านคัน โดยเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 0.42 ล้านคันต่อปี

ระหว่างปี 2563 – 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 4.85 ล้านคัน โดยเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 0.23 ล้านคันต่อปี

นอกจากมาตรการห้ามขับขี่จักรยานยนต์ ทำให้จักรยานไฟฟ้าได้รับความนิยมจากชาวหนานหนิงมากขึ้นแล้ว ยังมีสาเหตุที่สำคัญ คือ จักรยานไฟฟ้ามีราคาจำหน่ายที่ไม่สูงสามารถจับต้องได้ ประมาณ 1,800 – 5,500 หยวนต่อคัน นอกจากนี้จักรยานไฟฟ้านั้นขับขี่ง่าย ประหยัดแรงและค่าใช้จ่าย ดูแลรักษาง่าย มีความคล่องตัวสูง มีความสะดวกในการจอดรถ และไม่ต้องติดไฟแดงแบบรถจักรยานยนต์ทั่วไป

จักรยานไฟฟ้าในเมืองหนานหนิงผลิตจากที่ใหน จักรยานไฟฟ้าในเมืองหนานหนิงจะมาจากโรงงานผลิตในเมืองหนานหนิงเอง ซึ่งเป็นโรงงานของยี่ห้อต่างๆ แต่ยังไม่ได้เป็นโรงงานขนาดใหญ่ และจากเมืองกุ้ยก่างเป็นหลัก ซึ่งเป็นเมืองรองของเขตฯ กว่างซี (ห่างจากเมืองหนานหนิง 150 กิโลเมตร)

จักรยานไฟฟ้ารูปแบบการเดินทางที่น่าจับตามองในเมืองหนานหนิง

เมืองกุ้ยก่างมีฐานการผลิตรถไฟฟ้าพลังงานใหม่ของจีน-อาเซียน (China ASEAN New Energy Electric Vehicle Production Base) ก่อตั้งเมื่อปี 2558 มีพื้นที่ประมาณ 4,200 ไร่ เงินทุนกว่า 15,700 ล้านหยวน มีบริษัทมาตั้งฐานการผลิตกว่า 100 บริษัทในการดำเนินการผลิตรถจักรยานไฟฟ้าสองล้อ รถจักรยานไฟฟ้าสามล้อ รถยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วน โดยเน้นการผลิตจักรยานไฟฟ้าเป็นหลัก และมี 6 บริษัทอยู่ในรายชื่อบริษัท 10 อันดับแรกในสาขาธุรกิจรถจักรยานไฟฟ้าของจีน ได้แก่ AIMA, Tailg, Luyuan, Opai, Wuxing zuboo และChenglong Wulin Electic Vehicle ซึ่งเป็นบริษัทผลิตจักรยานไฟฟ้าทั้งหมด สามารถผลิตจักรยานไฟฟ้าปีละ 5 ล้านคัน รถจักรยานไฟฟ้าสามล้อปีละ 5 แสนคัน และชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องปีละ 5 ล้านชุด ซึ่งเป็นฐานผลิตจักรยานไฟฟ้าใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศจีน

จักรยานไฟฟ้าจำนวนมาก เมืองหนานหนิงบริหารจัดการได้อย่างไร ในด้านทางถนนเมืองหนานหนิงได้สร้างช่องทางสำหรับจักรยานไฟฟ้าขึ้นมาโดยเฉพาะแยกทางกับรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นถนนในเมืองทั่วไป สะพาน รวมถึงถนนในอุโมงค์ ในด้านการจอดรถเมืองหนานหนิง มีการสร้างโซนจอดจักรยานไฟฟ้าข้างถนนโดยเฉพาะ

จักรยานไฟฟ้ารูปแบบการเดินทางที่น่าจับตามองในเมืองหนานหนิง

จักรยานไฟฟ้ารูปแบบการเดินทางที่น่าจับตามองในเมืองหนานหนิง

โดยไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ สำหรับถนนอยู่บริเวณห้างสรรพสินค้าก็มีการตั้งโซนจอดจักรยานไฟฟ้า และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ซึ่งจะเสียค่าที่จอด 1 หยวนต่อครั้งในเวลากลางวัน และ 2 หยวนต่อครั้งในเวลากลางคืน ด้วยการบริหารจัดการที่ดีของเมืองหนานหนิงส่งเสริมให้จักรยานไฟฟ้าได้รับความนิยมมากขึ้น และได้ดึงดูดให้เมืองอื่นมาศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการบริหารจัดการจักรยานไฟฟ้า เช่น เมืองไหโข่ว เมืองอู่ฮั่น เมืองหนานชาง และเมืองฉางซา เป็นต้น

ทั้งนี้ รูปแบบการเดินทางด้วยจักรยานไฟฟ้านั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมส่งเสริมให้เมืองหนานหนิงกลายเป็นเมืองสีเขียวมากขึ้น ตัวเลขประกาศจาก Hello ซึ่งเป็นบริษัทดำเนินธุรกิจบริการจักรยานไฟฟ้าแชริ่ง (Electric Bike Sharing) อันดับต้นๆ ของจีน พบว่าเมื่อปี 2562 ชาวหนานหนิงขับขี่จักรยานไฟฟ้าแชริ่งแบรนด์ Hello ทั้งปีสูงสุดเป็น 2,517 ครั้งต่อคน เท่ากับขับขี่ 7 ครั้งใน 1 วัน ในปีดังกล่าวชาวหนานหนิงขับขี่จักรยานไฟฟ้าแชริ่งแบรนด์ Hello รวมเป็นระยะทาง 71.83 ล้านกิโลเมตร (เทียบเท่ากับขับขี่รอบโลก 17.96 รอบ) สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์สะสมอยู่ที่ 4,648 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 258,000 ต้น โดยคิดตามการดูดซับการปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์ 18 กิโลกรัมต่อปี   แ  ปัจจุบันธุรกิจจักรยานไฟฟ้าแชริ่งของจีนมีลูกค้าใช้บริการมากกว่า 500 ล้านคน อัตราค่าใช้บริการจักรยานไฟฟ้าแชริ่งอยู่ที่ 1 หยวนต่อ 15 นาที จักรยานไฟฟ้าได้กลายเป็น 1 ใน 3 รูปแบบการเดินทางสาธารณะที่สําคัญกับรถประจําทางและรถไฟใต้ดิน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเดินทางในชีวิตประจำวันของประชาชนจีนได้เป็นอย่างดี

ความเห็น สคต. ณ เมืองหนานหนิง จากการสังเกตพบว่าคณะคนไทยที่เดินทางมาเยือนหนานหนิงครั้งแรกจะมีความประทับใจกับจักรยานไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะพบเห็นจักรยานไฟฟ้าขับขี่อยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก และไม่มีเสียงดังเหมือนจักรยานยนต์ปกติทั่วไป การขับขี่รถยนต์และจักรยานไฟฟ้าบนถนนในเมืองมีการแบ่งช่องทางวิ่งตามเลนถนนอย่างมีระเบียบ รวมถึงเห็นได้ว่าเกือบทุกเส้นถนนว่ามีจักรยานไฟฟ้าแชริ่งจอดพร้อมให้บริการอยู่ริมถนนและสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา จึงทำให้คนไทยหลายคนพูดว่า “เมืองหนานหนิงเป็นเมืองสีเขียวที่ไม่เพียงแต่มีต้นไม้เยอะเท่านั้น รูปแบบการเดินทางด้วยจักรยานไฟฟ้ายังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม น่าจะนำรูปแบบนี้ไปใช้ในเมืองไทยบ้าง”

ทั้งนี้ รูปแบบการบริหารจัดการจักรยานไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นจักรยานไฟฟ้าแชริ่งหรือจัดสรรช่องทางจัดขับขี่ร่วมกับรถยนต์เป็นรูปแบบที่ดีที่ประเทศไทยน่าจะมีการส่งเสริมการใช้จักรยานไฟฟ้าเพื่อนำประโยชน์หลายด้านในการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านความสะดวกในการเดินทางในเมือง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นการรักษ์โลกด้วยการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ รวมถึงสามารถสนับสนุนพัฒนาธุรกิจจักรยานไฟฟ้าแชริ่งภายในเมือง และสามารถต่อยอดไปยังเมืองท่องเที่ยว ในต่างจังหวัดเพื่ออำนวยสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ อีกทั้งเพิ่มโอกาสการจ้างงานของชุมชนในท้องถิ่นได้อีกด้วย

———————————————————————————

แหล่งที่มา

https://mp.weixin.qq.com/s/9nx4buSFGHpAz4wofJv2Fg

https://www.toutiao.com/article/7371271632825975334/?wid=1721183532675

https://mp.weixin.qq.com/s/_bxHZx6yealtWr02HlK_Xg

https://news.gxtv.cn/article/detail_82f60970e3ad4b8a914f17ad9bef7501.html

 

thThai