หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายวัน Al-Qabas ของคูเวตรายงานว่าจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้รับผลกระทบ ทำให้บางประเทศใน GCC มียอดการค้าเป็นลบ เพราะมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการต่ำกว่ามูลค่าการนำเข้า ในเดือนมกราคม 2567 มูลค่าดุลการค้าเกินดุล (Trade Surplus) ของคูเวตลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าลดลงเล็กน้อยจาก 3.90 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็น 3.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
สอดคล้องกับสถิติของสำนักงานสถิติกลางคูเวต (Central Administration of Statistics) ระบุตัวเลขการส่งออกในเดือนมกราคม 2567 มูลค่าประมาณ 6.50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลง ร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 7.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ในทํานองเดียวกันการนําเข้าในเดือนมกราคม 2567 ลดลงร้อยละ 7.5 จากมูลค่า 3.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นมูลค่า 3,038.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
การส่งออก
การส่งออกน้ำมันของคูเวตคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 91.5 ของการส่งออกทั้งสิ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือลดลงประมาณ 783.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (YoY) เนื่องจากอุปทานที่ตึงตัวจากนโยบายควบคุมการผลิตของ OPEC+ ซึ่งสมาชิกกลุ่ม OPEC+ รวม 8 ประเทศ ประกอบด้วยซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย อิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คูเวต คาซัคสถาน แอลจีเรีย และโอมาน ตัดสินใจขยายเวลามาตรการลดการผลิตน้ำมันต่อไปจนถึงสิ้นไตรมาส 2 ปี 2567
ในขณะที่การส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมัน (Non-oil) เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.4 หรือมูลค่ารวมประมาณ 344.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ 287.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปีก่อนสินค้าที่ส่งออก ได้แก่ เคมีภัณฑ์อินทรีย์ ผลิตภัณฑ์เหล็ก เครื่องจักร น้ำมันหอมระเหย และผลิตภัณฑ์นม-เนย
การนำเข้า
ในส่วนของการนำเข้าสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน (Non-oil) คูเวตนำเข้ามากอันดับแรกจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูลค่าประมาณ 130.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามด้วยอิรัก 111.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับสามจากซาอุดีอาระเบีย 71.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
หมวดสินค้าที่คูเวตนำเข้าในเดือนมกราคม 2567 แบ่งออกเป็น
- หมวดอาหารและเครื่องดื่มมูลค่า 473.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5 ของการนำเข้าทั้งหมด
- หมวดสินค้าอุตสาหกรรมมูลค่า 02 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- หมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง มูลค่า 481.26 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
จีนเป็นประเทศที่นำเข้ามูลค่ามากเป็นอันดับแรก 660.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 21.6 ของการนำเข้าทั้งสิ้น รองลงไปคือยูเออีมูลค่า 384.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และสหรัฐอเมริกามูลค่า 250.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามลำดับ
สรุป
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าตลาดน้ำมันโลก จะอยู่ในสภาวะที่อุปสงค์มากกว่าอุปทาน (Deficit) 0.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังจากที่ตลาดอยู่ในภาวะอุปทานมากกว่าอุปสงค์ (Surplus) มาติดต่อกัน 2 ปีแล้ว และมีปัจจัยเกี่ยวข้องกับอีกหลายปัจจัยซึ่งน่าจะกดดันทำให้ราคาน้ำมันดิบไม่สามารถทะยานขึ้นรุนแรงได้มากนัก
ทั้งนี้คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ Brent ในไตรมาสสอง น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 80 – 90 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยยังคงได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ บวกกับอุปทานที่ตึงตัวจากนโยบายควบคุมการผลิตของ OPEC+ ซึ่งสมาชิกกลุ่ม OPEC+ ที่ตัดสินใจขยายเวลามาตรการลดการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ (Voluntary Cut) รวม 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นไตรมาส 2/2567
การค้าระหว่างไทยกับคูเวต
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2567 ไทย-คูเวตมีมูลค่าการค้ารวม 329.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็นไทยส่งออกไปยังคูเวต 92.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (-10.96%) และไทยนำเข้า 237.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+7.06%) โดย สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังคูเวต ได้แก่ รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ไม้ ปลากระป๋อง เครื่องจักร คอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น ตู้เย็น/ตู้แช่ เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องสำอาง สินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากคูเวต สัดส่วนร้อยละ 98 คือน้ำมันสำเร็จรูป