ตามสถิติของกรมศุลกากรเวียดนามระบุว่า ในไตรมาสแรกของปี 2567 อุตสาหกรรมกุ้งของเวียดนามมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน สะท้อนผ่านการส่งออกที่เพิ่มขึ้นไปยังตลาดหลัก การส่งออกกุ้งของเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 620 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้ง คาดว่ารายได้จากการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 และจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 140

นาย กีม ทูห์  (Kim Thu) สมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลแห่งเวียดนาม (Vietnam Association of Seafood Exporters and Producers: VASEP) กล่าวว่า จีนได้ลดการนำเข้าจากเอกวาดอร์ซึ่งเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ที่สุด และเพิ่มการนำเข้าจากเวียดนาม ในตลาดนี้ เวียดนามต้องแข่งขันด้านราคากับคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อจำนวนมากในจีนมองว่ากุ้งเวียดนามมีคุณภาพสูงกว่ากุ้งของเอกวาดอร์และอินเดีย จึงยอมรับราคาที่สูงกว่าได้

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านอุตสาหกรรมกุ้งจากสหรัฐฯ ยังให้ข้อมูลว่า ยอดขายอาหารทะเลสดและแช่แข็งในตลาดสหรัฐฯ คาดว่าจะทรงตัวในปี 2567 หลังจากเผชิญกับความยากลำบากอย่างมากในปี 2566 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและการใช้จ่ายของประชาชนที่ตึงตัว เมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งนำเข้ากุ้งรายใหญ่บางรายของสหรัฐฯ ได้แก่ อินเดีย เอกวาดอร์ และจีน เวียดนามถือว่ามีศักยภาพมากกว่า โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ มีการพัฒนาไปได้ด้วยดี

ผลิตภัณฑ์กุ้งแปรรูปคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 – 45 ของมูลค่าการส่งออกกุ้งทั้งหมดต่อปี มีผู้ประกอบการเวียดนามมีการแปรรูปที่ดี ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของกุ้งเวียดนามในตลาดญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมกุ้งจำเป็นต้องพยายามมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันจากประเทศอื่นยังคงมีความรุนแรง

นาย โฮ่ ก๊วก หลึก (Ho Quoc Luc) อดีตประธานสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลแห่งเวียดนาม (Vietnam Association of Seafood Exporters and Producers: VASEP) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์กุ้งของเวียดนามมีคุณภาพดี แต่ราคาอยู่ในระดับสูง ดังนั้นเกษตรกรและผู้ส่งออกจึงควรหามาตรการเพื่อรักษาคุณภาพและลดต้นทุนการผลิต

(จาก https://en.vietnamplus.vn/)

ข้อคิดเห็น สคต

แนวโน้มการส่งออกกุ้งของเวียดนามมีสัญญาณว่ากำลังฟื้นตัว อีกทั้งเวียดนามยังมีข้อได้เปรียบในการทำข้อตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าที่มีความสำคัญที่เป็นตลาดส่งออกหลักหลายประเทศโดยเฉพาะความตกลง EVFTA ที่เป็นความตกลงทวิภาคีที่มีการเปิดเสรีการค้าสินค้าในระดับสูงเกือบ 100% ซึ่งสูงสุดในบรรดา FTA ที่เวียดนามมีอยู่ในปัจจุบัน ที่จะได้เปรียบในการส่งออกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ไม่ได้มีการทำข้อตกลงฉบับนี้ นอกจากเวียดนามยังคงสามารถรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันด้านการจัดหาวัตถุดิบเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในการส่งออกกุ้ง นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำยังต้องร่วมมือกับภาคธุรกิจต่างๆ เพื่อศึกษาตลาดและจัดการการผลิตที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ามีจะมีผลผลิตตามความต้องการของคลาด เผื่อให้การส่งออกสัตว์น้ำของเวียดนามในปี 2567 จะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้

แนวโน้มการบริโภคกุ้งแปรรูปกำลังได้รับความนิยมจากหลายตลาดมากขึ้นเป็นโอกาสของสินค้าไทยซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตอาหารและมีเทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยมีคุณภาพตามมาตรฐานสากล สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่หลากหลาย โดยผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูงในด้านเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารที่หลากหลาย ซึ่งสอดรับกับแนวโน้มความนิยมของตลาดที่นิยมกุ้งแปรรูปมากขึ้น ในขณะที่เวียดนามยังคงเน้นส่งออกกุ้งแช่เย็นแช่แข็ง เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการไทยสามารถใช้เวียดนามเป็นแหล่งวัตถุดิบในการแปรรูปเพื่อส่งออกต่อไปได้

 

thThai