เวียดนาม ฝรั่งเศส ยกระดับความร่วมมือด้านการขนส่ง

นาย Nguyen Van Thang รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำคณะผู้แทนเวียดนามเยือนฝรั่งเศสระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน ปี 2567 โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือกันที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการขนส่ง กับนาย Patrice Vergriete รัฐมนตรีด้านการขนส่งของกระทรวงการเปลี่ยนระบบนิเวศและการทำงานร่วมกันในท้องถิ่น (Ministry for Ecological Transition and Territorial Cohesion) และตัวแทนของบริษัท Airbus

นาย Nguyen Van Thang ระบุว่า ความร่วมมือด้านการขนส่ง ทั้งการขนส่งทางอากาศ ทางรถไฟ ทางทะเล และทางถนน เป็นหนึ่งสาขาความร่วมมือทั้งสองประเทศให้ความสำคัญในการส่งเสริมมาหลายปี ซึ่งเวียดนามจะมีข้อเสนอให้ฝรั่งเศสเดินเรือขนาดใหญ่ไปยังเวียดนาม เพื่อเปิดเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นไปยังท่าเรือหลักในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเพิ่มความร่วมมือทางรถไฟ อีกทั้งทั้งสองฝ่ายจะทบทวนข้อตกลงที่ลงนามนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน โดยเฉพาะประเด็นด้านเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาท่าเรือสีเขียว และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
นาย Patrice Vergriete รัฐมนตรีด้านการขนส่งของฝรั่งเศสยังกล่าวว่า ฝรั่งเศสกำลังพิจารณาประเด็นต่างๆที่จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีกับเวียดนาม โดยเวียดนามมีรูปแบบท่าเรือที่มีประสิทธิภาพทำให้ฝรั่งเศสหวังว่าจะพัฒนาความร่วมมือทางการค้าทางทะเลในอนาคตและส่งเสริมศักยภาพความร่วมมือในโครงการทางด่วนต่างๆ โดยเฉพาะโครงการเชื่อมต่อทางด่วนสายเหนือ-ใต้ของเวียดนาม ซึ่งเน้นยำถึงความรวมมือของสองประเทศ เพื่อพิสูจน์ว่าเวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญของฝรั่งเศส

นอกจากนี้ นาย Nguyen Van Thang กล่าวเพิ่มว่า รัฐบาลเวียดนามกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางถนน โดยกำลังเร่งรัดดำเนินโครงการทางด่วนสายตะวันออกเหนือ-ใต้ ซึ่งสร้างไปแล้วกว่า 1,800 กม โดยเวียดนามตั้งเป้าหมายจะสร้างทางด่วน 3,000 กม ภายในปี 2568 และ 5,000 กม ภายในปี 2573

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมกับคณะผู้แทนเวียดนาม นาย Rodolphe Gintz ผู้อำนวยการโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการเคลื่อนย้ายของฝรั่งเศส (Ministry of Ecological Transition: DGITM) กล่าวว่าฝ่ายฝรั่งเศสพร้อมที่จะแบ่งปันความรู้เฉพาะทางกับเวียดนามเกี่ยวกับการพัฒนาทางรถไฟความเร็วสูงและทางด่วน และยังมีการทำงานร่วมกับขนส่งมวลชนปารีส (Parisian Autonomous Transport Administration :RATP) สหพันธ์การขนส่งเมืองหลวง (Public transport in Paris: IDFM) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ประสานงานในการขนส่งสาธารณะในปารีสและ บริษัททางรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส (French National Railway Company: SNCF) เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านการขนส่งทางรถไฟ นอกจากนั้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการขนส่งทางอากาศ คณะผู้แทนยังได้เข้าร่วมการประชุมกับตัวแทนของบริษัท Airbus ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนามมากว่า 40 ปี โดยจะยังคงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางสำหรับบริษัท Airbus ในการดำเนินโครงการต่างๆและโครงการความร่วมมือในเวียดนาม

 

(จาก https://en.vietnamplus.vn/)

ข้อคิดเห็น สคต

ตลอดระยะเวลาของควาสัมพันธ์กว่า 50 ปี เวียดนามและฝรั่งเศสได้ส่งเสริมความร่วมมือที่ครอบคลุมและรักษากลไกการเจรจาอย่างสม่ำเสมอในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านขนส่ง รวมทั้งความร่วมมือด้านการบิน การรถไฟ การเดินเรือ และทางด่วน เนื่องจากเวียดนามตั้งเป้าที่จะก่อสร้างทางด่วนพร้อมติดตั้งระบบบริหารจัดการการจราจรและปฏิบัติการอัจฉริยะ (lntelligent Transport System: ITS) จัดตั้งศูนย์ควบคุมการจราจร ระบบเก็บค่าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แบบไม่มีไม้กั้น (Electronic Toll Collection: ETC) อีกทั้ง ปัจจุบันเวียดนามและฝรั่งเศสกำลังรวมมือกันในการดำเนินโครงการรถไฟในกรุงฮานอย และคาดว่าในปี 2567
กรุงฮานอยจะเริ่มดำเนินการสร้างเพิ่มเส้นทาง ทางรถไฟของสถานี Nhon ถึง สถานี Thu Le นอกจากนั้นเวียดนามก็จะพยายามพัฒนาโอกาสที่จะเชื่อมกับภาคการขนส่งทางเรือของฝรั่งเศสมากขึ้น รวมทั้งการค้าขายและภาคโลจิสติกส์อื่นๆ สำหรับภาคการบินเวียดนามกำลังมุ่งเน้นไปที่การดำเนินโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติ Long Thành (จังหวัดด่งนาย) โดยเมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 100 ล้านคน/ปี อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ทันสมัยและมีประสบการณ์และเทคโนโลยีในด้านการขนส่ง ทำให้เวียดนามและฝรั่งเศสมีการร่วมมือในการดำเนินโครงการต่างๆในการพัฒนาเครือข่ายการจราจรและการขนส่งในทุกด้าน

 

thThai