บริษัท Coca-cola ประกาศใช้ขวดพลาสติกที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% ในฮ่องกงสอดรับนโยบายรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการลดการใช้พลาสติก

บริษัท Coca-cola ประกาศใช้ขวดพลาสติกที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% ในฮ่องกงสอดรับนโยบายรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการลดการใช้พลาสติก

บริษัท Coco-cola ได้ประกาศเริ่มการผลิตขวดน้ำอัดลมขนาด 500 มล. ที่จำหน่ายในฮ่องกงจากพลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยขวดน้ำอัดลมขนาด 500 มล. สำหรับ Coca-cola Original, Coca-cola No Sugar และ Coca-cola Plus ได้เปลี่ยนมาใช้ rPET 100 % ในการผลิตเป็นครั้งแรกในฮ่องกง

 

การใช้วัสดุ rPET จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายในการรวบรวมและนำขวดน้ำอัดลมกลับมารีไซเคิลได้ทุกขวดภายในปี 2573 ซึ่งนาย Tim Warwick รองประธานฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Coca-cola ผู้ดูแลตลาดฮ่องกง ไต้หวัน มาเก๊า และมองโกเลีย  กล่าวว่าบริษัทฯ มีแผนการจะเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติก     รีไซเคิล 100 % ภายในปี 2568 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำร่องการเปลี่ยนใช้ขวดบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล100% ไปยังประเทศต่างๆ เช่น แคนาดา ฟิลิปปินส์ และเมียนมาร์ เรียบร้อยแล้ว

 

จากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมที่เป็นตัวแทนของผู้ผลิต PET ในอเมริกาเหนือและยุโรป รายงานว่าจำนวน Polyethylene terephthalate (PET) ที่นำมาผลิตเป็นรีไซเคิลมากที่สุดในโลกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 31%ในสหรัฐอเมริกา และ 52% ในยุโรป

 

“ในฮ่องกงมีตัวเลขการกำจัดขยะพลาสติกประมาณ 2,300 ตันทุกวันไปยังสถานที่ฝัง        กลบขยะ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 21% ของขยะมูลฝอยในชุมชนทั้งหมด” โดย นาย Samuel Chui, The Government’s Director of Environmental Protection กล่าวในงานเปิดตัว

 

ประมาณ 4% จากขยะพลาสติกหรือมากกว่า 100 ตันต่อวัน เป็นขวดเครื่องดื่มพลาสติกมากกว่า โดยกว่า 90% ทำจากวัสดุ PET ซึ่งแท้จริงแล้วขวดพลาสติก PET มีมูลค่าการรีไซเคิลที่สูงมาก และสามารถเปลี่ยนเป็นทรัพยากรที่มีประโยชน์ได้   การนำบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลใหม่นี้จะสนับสนุนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของวัสดุพลาสติกในพื้นที่      รวมทั้งจะเป็นมาตรฐานสำหรับการค้าในอนาคต

 

รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะออกกฎหมายภายในปีนี้ โดยนำเสนอแผนที่ทำให้ผู้ผลิตต้องมีความรับผิดชอบต่อสินค้าต่างๆ รวมถึงบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มพลาสติก ตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้บริโภครับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรวบรวม แปรรูป รีไซเคิล และกำจัดทิ้ง

 

บริษัท Coca-Cola และ Swire Coca-Cola ซึ่งเป็นหุ้นส่วนด้านการบรรจุขวดของบริษัท ได้เข้าร่วมโครงการ Drink Without Waste  โดยลงทุน 3 ล้านเหรียญฮ่องกง (ประมาณ 380,000 เหรียญสหรัฐ) ในปี 2567   เพื่อสนับสนุนโครงการ New Neighborhood Collection Scheme พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ผู้อยู่อาศัย ผู้ทำความสะอาด และครัวเรือนที่อยู่อาศัยในการคัดแยกบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล นอกจากนี้ โครงการ Drink Without Waste ยังต้องการความร่วมมือทั้งผู้ผลิตเครื่องดื่ม และกลุ่มเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนโครงการการรีไซเคิลให้ประสบความสำเร็จ

 

ทั้งนี้ หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมจะประกาศมาตรการห้ามใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งในวันที่ 22 เมษายน 2567 โดยจะครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์โฟมและเครื่องใช้ต่างๆ เช่น ช้อนส้อมและหลอดที่ร้านขายแบบซื้อกลับบ้าน ลูกค้าที่รับประทานอาหารที่ร้านจะไม่สามารถใช้ถ้วยหรือกล่องพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวภายใต้นโยบายนี้ได้อีกต่อไป

 

ความคิดเห็นของ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง

 

บริษัท Coca-cola ในฮ่องกงได้ผลิตขวดน้ำอัดลมจากวัสดุรีไซเคิล 100% เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลฮ่องกงที่ต้องการลดการใช้พลาสติกเริ่มเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป ประกอบกับบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

ในขณะเดียวกัน ความนิยมของวัสดุรีไซเคิลที่นำมาผลิตสินค้าต่างๆ เช่น ภาชนะบรรจุอาหาร เครื่องดื่ม หรือเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ยังมีความต้องการในตลาดฮ่องกง โดยเฉพาะนับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ร้านอาหาร หรือร้านเครื่องดื่มในฮ่องกง จะต้องใช้วัสดุ/ภาชนะใส่กล่อง Takeaway หรือใช้ในร้าน ที่ไม่ใช่พาสติก แต่สามารถใช้วัสดุที่ทดแทน เช่น กระดาษ วัสดุที่ทำจากไม้ แทนพลาสติกแบบเดิม   โดยผู้ประกอบการไทยสามารถใช้โอกาสนี้นำเสนอผลิตภัณฑ์รีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในฮ่องกง   ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากหลายประเทศ โดยมีการเปรียบเทียบด้านคุณภาพความปลอดภัยและราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดฮ่องกงได้ ซึ่งผู้ประกอบการควรพิจารณาและศึกษาตลาดเพื่อสอดคล้องกับความต้องการในตลาดฮ่องกงอีกด้วย

 

ที่มา: https://www.scmp.com/business/companies/article/3258244/coca-cola-launches-500ml-bottles-made-100-recycled-plastic-hong-kong-it-cuts-environmental-footprint?module=top_story&pgtype=section

thThai