สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจการค้ากลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ไตรมาสแรก ปี 2567

ธนาคาร Dansk Bank คาดการณ์เศรษฐกิจกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ปี 2567 ในรายงาน Nordic Outlookฉบับวันที่ 5 มีนาคม 2567 ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศนอร์ดิกกำลังอยู่ในภาวะซบเซา และถดถอยเล็กน้อยเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในยุโรป ในขณะที่อุตสาหกรรมยา และเภสัชกรรมเดนมาร์กกำลังเจริญรุ่งเรือง
อย่างไรก็ดี ธนาคาร Dansk Bank คาดว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ กลับมาสู่การเติบโตตามปกติในช่วงอีก 1 – 2 ปีข้างหน้านี้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อำนาจการใช้จ่ายที่สูงขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง โดยมีรายละเอียดแต่ละประเทศ ดังนี้
• เดนมาร์ก: เศรษฐกิจเดนมาร์กดีเกินคาดการณ์ถึงแม้ในภาวะอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น เหตุผลหลักมาจากความสำเร็จของบริษัทยา และเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่อย่าง Novo Nordisk ซึ่งการเติบโตของบริษัทฯ ผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมของเดนมาร์กสูงขึ้น ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ รวมทั้งภาคการก่อสร้างที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่หดตัวลง
• สวีเดน: ในขณะที่อุปสงค์ในประเทศอยู่ในภาวะอ่อนแอ เศรษฐกิจสวีเดนเติบโตจากภาคการส่งออกที่แข็งแกร่ง การว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าตลาดแรงงานจะยังคงมีความยืดหยุ่นก็ตาม ทั้งนี้ หากไม่รวมต้นทุนที่อยู่อาศัย อัตราเงินเฟ้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกจากธนาคารกลางสวีเดน (Riksbank) คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน
• นอร์เวย์: การเติบโตทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อกำลังชะลอตัว อัตราการจำนองที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายที่สำคัญของครัวเรือน ส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนที่อยู่อาศัย อัตราการว่างงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะยังอยู่ในระดับต่ำก็ตาม คาดว่าธนาคารกลางนอร์เวย์ (Norges Bank) จะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตราเดิมจนถึงช่วงพฤษภาคม และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในการประชุมในเดือนมิถุนายน
• ฟินแลนด์: เศรษฐกิจฟินแลนด์ยังอยู่ในภาวะถดถอย แต่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงปี 2567 จากการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง รวมทั้งภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลาดแรงงานของฟินแลนด์ยังคงค่อนข้างคงที่ บริษัทฟินแลนด์หลายแห่งยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และคาดว่าค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าในช่วงปีก่อนๆ ที่ผ่านมา

บทวิเคราะห์ผลกระทบต่อไทย ข้อเสนอแนะ โอกาสแนวทางและความคิดเห็น
• ปัจจุบันกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์มีประชากรรวม 28.04 ล้านคน แบ่งเป็น เดนมาร์ก 5.96 ล้านคน สวีเดน 10.55 ล้านคน ฟินแลนด์ 5.60 ล้านคน นอร์เวย์ 5.55 ล้านคน และไอซ์แลนด์ 0.38 ล้านคน ในช่วงปี 2566 ไทยส่งออกสินค้าไปยังตลาดกลุ่มประเทศนอร์ดิกรวม 1,381 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.95 โดยการส่งออกไปสวีเดน และนอร์เวย์เพิ่มขึ้น ในขณะที่การส่งออกไปเดนมาร์ก ฟินแลนด์ และไอซ์แลนด์ลดลง ทั้งนี้ สวีเดนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศนอร์ดิก มีมูลค่า 527.15 ล้านเหรียญสหรัฐ รองลงมา ได้แก่ เดนมาร์กมูลค่า 360.95 ล้านเหรียญสหรัฐ
• แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่สำคัญของกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์ คือ สินค้า และบริการที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าออร์แกนิก ทั้งกลุ่มสินค้าอาหาร และไม่ใช่อาหาร เช่น เครื่องสำอางออร์แกนิก เสื้อผ้าออร์แกนิก 100% ผู้บริโภคกลุ่มประเทศนอร์ดิกส์เป็นกลุ่มที่มีการศึกษา จึงมักตรวจสอบข้อมูลลึกไปถึงการผลิตสินค้าของผู้ผลิต (traceability) การให้ข้อมูลที่โปร่งใสเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติในตลาดนี้ เช่น โรงงานการผลิต แรงงาน และสวัสดิภาพสัตว์ ผู้บริโภคมักแบ่งปันประสบการณ์การซื้อสินค้า/บริการ (review) และใช้ข้อมูลดังกล่าวในการช่วยตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการในอนาคต แพลต์ฟอร์มที่ผู้บริโภคนิยมในตลาดนี้ เช่น https://trustpilot.com/ และ Google Map review การรักษามาตรฐานคุณภาพสินค้า และบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเข้าตลาดนี้