อัตราการเกิดในญี่ปุ่นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนอกจากจะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต จากการที่แนวโน้มสินค้าเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของผู้บริโภคกระแสหลักแล้ว ยังจะกระทบกับภาคแรงงาน และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย

 

Oji Nepia ผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็กรายใหญ่ประกาศยุติการทำตลาดในญี่ปุ่นภายในเดือนกันยายน 2567 เนื่องจากความต้องการลดลงตามอัตราการเกิดที่ลดต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในปัจจัยหลัก คือ อัตราการแต่งงานที่ลดลง จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิภาพสังคมญี่ปุ่น ในปี 2566 มีจำนวน 489,281 คู่ ลดลงร้อยละ 5.9 ซึ่งต่ำกว่า 500,000 คู่ เป็นครั้งแรกในรอบ 90 ปี

 

ทารกแรกเกิดในญี่ปุ่นในปีเดียวกัน มีจำนวน 758,631 คน ลดลงถึงร้อยละ 5.1 ซึ่งเป็นการลดติดต่อกันเป็นปีที่ 8 และต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของทารกอยู่ที่ 1,590,503 คน ทั้งนี้ เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 15 ปี มีสัดส่วนต่ำกว่าร้อยละ 12 ของประชากรทั้งหมดของญี่ปุ่น ขณะที่ร้อยละ 30  มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

 

ในการนี้ Oji Nepia จะหันไปขยายตลาดผ้าอ้อมเด็กในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีอัตราการเกิดสูง เช่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขณะที่ขยายตลาดผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นเจาะกลุ่มสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (Nursing home) ปัจจุบัน ปริมาณการผลิตของ Oji Nepia อยู่ที่ 400 ล้านชิ้น เทียบกับ 700 ล้านชิ้น ในช่วงที่ตลาดเติบโตสูงสุดเมื่อกว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมาในปี 2544

—————————————————————————————-

ที่มา : https://www.japantimes.co.jp/business/2024/03/26/companies/japan-adult-diaper-market

thThai