ที่มาภาพ: https://www.sohu.com/a/593569588_121119039
ร้านหม้อไฟได้รับความนิยมในประเทศจีน เพราะเป็นประเภทอาหารที่นิยมทานกันเป็นกลุ่ม ลูกค้าส่วนมากใช้ร้านหม้อไฟเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์หลังเลิกงาน ทำให้จำนวนร้านหม้อไฟและอัตราการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยครั้ง คือ การควบคุมคุณภาพ
ด้วยเหตุนี้ แบรนด์หม้อไฟต่าง ๆ จึงตั้งเป้าหมายมุ่งเน้นไปที่การสร้างความแตกต่างในรสชาติและภาพลักษณ์ แต่ยังต้องคงไว้ซึ่งสูตรต้นตำหรับของอาหาร รวมทั้งต้องสร้างความวางใจให้แก่ผู้บริโภค และเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคมีความหลากหลายมากขึ้น หม้อไฟแต่ละแบรนด์จึงต้องพัฒนาระบบการจัดการอยู่ตลอดเวลา
หมวดหมู่หลักของหม้อไฟจีน
หม้อไฟจีนมีแบ่งออกได้เป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ หม้อไฟยูนนาน-กุ้ยโจว หม้อไฟเสฉวน-ฉงชิ่ง หม้อไฟเจียงซู-เจ้อเจียง หม้อไฟกวางตุ้ง หม้อไฟภาคเหนือ และหม้อไฟประเภทอื่น ๆ โดยหม้อไฟแต่ละประเภทมีรสชาติที่แตกต่างกันด้วยลักษณะการบริโภคอาหารและการสังสรรค์ของผู้คนในภูมิภาคนั้น ๆ จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่นได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ผู้บริโภคชาวจีนจึงต้องการลิ้มลองรสชาติหม้อไฟที่แปลกใหม่จากหลากหลายพื้นที่ ซึ่งหม้อไฟเสฉวน-ฉงชิ่ง (ร้อยละ 58.6) และหม้อไฟกวางตุ้ง (ร้อยละ 42.3) เป็นประเภทหม้อไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
ภาพรวมของอุตสาหกรรมหม้อไฟของจีน
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c1087/96965.html
ขนาดตลาดของอุตสาหกรรมหม้อไฟของจีน
จากรายงานของ iiMedia Research ระบุว่าขนาดของอุตสาหกรรมหม้อไฟจะยังคงขยายตัวต่อไปเรื่อย ๆ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5.966 แสนล้านหยวน (ประมาณ 2.983 ล้านบาท) ในปี 2566 และคาดว่าจะสูงถึง 6.689 แสนล้านหยวน (ประมาณ 3.345 ล้านบาท) ในปี 2568
นอกจากปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 แล้วนั้น อุตสาหกรรมหม้อไฟยังคงรักษาแนวโน้มการเติบโตได้อย่างมั่นคง หากเทียบกับอาหารอื่น ๆ ที่ต้องทานเป็นหมู่คณะ หม้อไฟมีรสชาติและเมนูอาหารให้เลือกอย่างหลากหลายมากกว่า ถือเป็นข้อได้เปรียบของอาหารประเภทนี้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมหม้อไฟจะสามารถขยายขนาดและรักษามาตรฐานได้ง่ายกว่า ในปัจจุบันอุตสาหกรรมหม้อไฟกำลังพัฒนานวัตกรรม เพื่อขยายขนาดการบริโภคและยกระดับคุณภาพ
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
ปริมาณวัตถุดิบที่เป็นส่วนผสมสำหรับหม้อไฟในประเทศจีน
หากวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำ ในปี 2565 ผลผลิตจากทั้งผักและเนื้อสัตว์ของจีนยังคงเติบโตอย่างมั่นคง โดยเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านตัน และ 93.284 ล้านตัน ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 31.6 และร้อยละ 3.8 ตามลำดับ แม้ว่าวัตถุดิบจากผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของจีนจะลดลงเล็กน้อยเป็น 65.49 ล้านตัน แต่โดยรวมแล้ว อุปทานของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั่วประเทศยังสามารถสนองความต้องการในธุรกิจหม้อไฟได้อย่างเพียงพอ เพราะเศรษฐกิจในสินค้าทางการเกษตรของประเทศจีนยังคงมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ด้วยอุปทานที่เพียงพอจากอุตสาหกรรมต้นน้ำ อุตสาหกรรมหม้อไฟจึงมีรากฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
การกระจายร้านสาขาของแบรนด์หม้อไฟยอดนิยมบางแห่งในประเทศจีน
ตัวอย่างร้านหม้อไฟของจีนที่น่าสนใจได้แก่ Haidilao (海底捞) และร้านหม้อไฟสไตล์เสฉวน Xiaolongkan (小龙坎) โดยร้านหม้อไฟ Haidilao ส่วนใหญ่กระจายอยู่ในเมืองใหญ่ระดับที่หนึ่งและเมืองใหญ่ระดับที่สอง คิดเป็นร้อยละ 30.1 และร้อยละ 21.7 ตามลำดับ ซึ่งมณฑลกวางตุ้งมีจำนวนร้านมากที่สุด จำนวน 162 ร้าน รองลงมาคือมณฑลเจ้อเจียง (111 ร้าน) และมณฑลซานตง (77 สาขา) ) ต่างกับร้านหม้อไฟเสฉวน Xiaolongkan ที่กระจายตัวเท่า ๆ กันในแต่ละมณฑล โดยเฉพาะในเมืองระดับที่ 4 (ร้อยละ 25.7) และมณฑลที่มีจำนวนสาขามากที่สุดได้แก่มณฑลอานฮุย (76 แห่ง) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ปัจจุบันกลุ่มเนื่องจากลูกค้าต้องการอาหารที่มีรสแปลกใหม่ และเปิดรับความหลากหลายจากทั่วทุกภูมิภาค แบรนด์หม้อไฟจึงสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ผ่านวัฒนธรรมในท้องถิ่นได้
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคหม้อไฟชาวจีน: ประเภทหม้อไฟและผลิตภัณฑ์
หม้อไฟเสฉวน-ฉงชิ่งเป็นหมวดหมู่หม้อไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้บริโภค จุดขายของหม้อไฟประเภทนี้คือ ลูกชิ้นประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะลูกชิ้นเอ็นเนื้อ และกระเพาะผ้าขี้ริ้ว ซึ่งนักวิเคราะห์ของ iiMedia Research เชื่อว่าด้วยการผสมผสานของรสชาติในท้องถิ่นลงในหม้อไฟจนกลายเป็นเอกลักษณ์ จะช่วยให้รสชาติของหม้อไฟประเภทต่าง ๆ เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคในแต่ละรายมากยิ่งขึ้น และสามารถตอบสนองความต้องการด้านรสชาติที่หลากหลายของผู้บริโภคได้
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
พฤติกรรมการบริโภคหม้อไฟของจีน: นิสัยการบริโภค
ผู้บริโภคชาวจีนร้อยละ 64.2 จะกินหม้อไฟร่วมเป็นกลุ่ม 3-4 คน และผู้บริโภคร้อยละ 3 จะกินหม้อไฟคนเดียว โดยผู้บริโภคมากกว่าร้อยละ 50 จะกินหม้อไฟกับเพื่อนร่วมชั้นหรือเพื่อนร่วมงาน นักวิเคราะห์ของ iiMedia Research เชื่อว่า นอกจากการปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของผู้อยู่อาศัย จะเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยให้อาหารจำพวกหม้อไฟมีราคาจับต้องได้ การบริโภคหม้อไฟยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ทางอ้อม เพราะเป็นอาหารที่นิยมทานร่วมกันเป็นหมู่คณะ และผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะพูดคุยกันระหว่างการรับประทาน เกิดเป็นวัฒนธรรมการกินรูปแบบใหม่ซึ่งสร้างความสนิทสนมในหมู่เพื่อนได้
อย่างไรก็ตาม มีผู้บริโภคจำนวนมากกว่าร้อยละ 60 เคยสั่งอาหารเมนูหม้อไฟในรูปแบบซื้อกลับบ้าน และมีผู้บริโภคร้อยละ 80.7 กล่าวว่าอยากลองรับประทานหม้อไฟในรูปแบบซื้อกลับบ้าน แสดงให้เห็นว่า แนวคิดการบริโภคทำให้กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่เต็มใจที่จะลิ้มลองผลิตภัณฑ์อาหารรูปแบบใหม่ ๆ และให้ความสำคัญกับประสบการณ์การรับประทานอาหารหม้อไฟมากขึ้น
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
การเลือกร้านอาหารหม้อไฟ
ในระหว่างที่ผู้บริโภคกำลังเลือกร้านอาหารหม้อไฟ มักจะคำนึงถึงราคาและชื่อเสียงของแบรนด์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 62.3 และ 50 ตามลำดับ อ้างอิงจากนักวิเคราะห์ของ iiMedia Research แม้ว่าผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับราคาของร้านอาหารหม้อไฟ แต่ชื่อเสียงของแบรนด์ก็มีอิทธิพลอย่างมากในการตัดสินใจของผู้บริโภค ทั้งการแนะนำแบบปากต่อปาก สภาพแวดล้อมในร้าน อาหารจานพิเศษ เป็นต้น เพื่อให้ร้านหม้อไฟอยู่รอดในตลาดที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด การสร้างแบรนด์ที่มีคุณภาพและราคาจับต้องได้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
บทวิเคราะห์บริษัทในอุตสาหกรรมหม้อไฟ: Haidilao
Haidilao (海底捞) เป็นแบรนด์ที่ทำธุรกิจอาหารหม้อไฟ ซึ่งมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2537 โดยยึดมั่นในแนวคิด “บริการต้องมาก่อน ลูกค้าต้องมาก่อน” ดังนั้นบริการของทุกร้านในเครือ Haidilao จะต้องมีคุณภาพ มีมาตรฐานเดียวกัน และต้องมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ร้านอาหาร Haidilao ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ มีจำนวนลูกค้าทะลุ 276 ล้านราย และมีลูกค้าที่เป็นสมาชิกมากกว่า 116 ล้านราย
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
บทวิเคราะห์บริษัทในอุตสาหกรรมหม้อไฟ: Xiabu Xiabu
ในปี 2566 ยอดการบริโภคในตลาดหม้อไฟค่อย ๆ ฟื้นตัวแบรนด์ Xiabu Xiabu ได้จัดกิจกรรมทางการตลาดจำนวนมาก เพื่อผลักดันกระแสลูกค้าให้ใช้บริการร้านในเครือ ส่งผลให้รายได้ของกลุ่มเริ่มสร้างกำไร ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 Xiabu Xiabu มีรายได้ 2.85 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยธุรกิจร้านอาหารหม้อไฟที่เป็นแหล่งรายได้หลักของ Xiabu Xiabu คิดเป็นถึงร้อยละ 97.59 และร้าน Cou Cou มีรายได้ครึ่งปีแรก 1.402 พันล้านหยวน คิดเป็นร้อยละ 49.24 ของรายได้ทั้งปี
ที่มาภาพ: https://www.iimedia.cn/c400/98484.html
แนวโน้มการพัฒนาของอุตสาหกรรมหม้อไฟของจีน
- การครองใจผู้บริโภค
การแข่งขันของอุตสาหกรรมหม้อไฟกำลังคุกรุ่นไปด้วยความดุเดือน ด้วยรสชาติที่คล้ายคลึงกันในแต่ละร้านทำให้ยากต่อการได้เปรียบในรสชาติ เพื่อแก้ไขจุดอ่อนของอุตสาหกรรมหม้อไฟ บริษัทต้นน้ำหลายแห่งในอุตสาหกรรมนี้จึงได้พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการให้หลากหลาย มีเอกลักษณ์ และปรับเปลี่ยนได้ง่าย สามารถสร้างความโดดเด่นในตลาดได้ หากอ้างอิงจากสถิติ ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้าน Haidilao มีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 1,360 แห่ง ซึ่งเป็นอันดับ 1 ในประเทศจีน คาดว่าในอนาคต แบรนด์หม้อไฟต่าง ๆ จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความโดดเด่นเพื่อดึงดูดผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม
- การให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหาร ราคา และชื่อเสียงของแบรนด์ได้กลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์หม้อไฟ
ความปลอดภัยของอาหารคือปัจจัยหลักที่อุตสาหกรรมหม้อไฟยึดมั่นเสมอ ดังนั้น ในขณะที่แบรนด์หม้อไฟเน้นการจุดประกายความแตกต่าง สร้างเอกลักษณ์ และรักษากลิ่นอายของต้นตำหรับในท้องที่ ทุก ๆ แบรนด์จะต้องรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบ เพื่อรักษาชื่อเสียงซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญถึงร้อยละ 50 ไปพร้อม ๆ กับการจัดสรรต้นทุนไม่ให้แพงเกินไป และมีราคาจับต้องได้สำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่มซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญถึงร้อยละ 62.3 และแบรนด์หม้อไฟที่มีการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพและชื่อเสียงที่ดีจะได้รับความเชื่อมั่นที่มีต่อแบรนด์จากลูกค้ามากขึ้น
ข้อคิดเห็นของสคต.เซี่ยงไฮ้
หม้อไฟเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่ขึ้นชื่อของประเทศจีน มีรสชาติที่แตกต่างกันตามแต่ละท้องที่ ทำให้หม้อไฟของจีนได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ร้านหม้อไฟจีนอย่าง Haidilao ได้ขยายสาขาออกไปหลายประเทศทั่วโลก เป็นที่ประจักษ์ว่าธุรกิจหม้อไฟจีนมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่
ทว่าเมื่อมีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้มีร้านหม้อไฟจีนหน้าใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด ส่งผลให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ดุเดือนขึ้นเรื่อย ๆ และ เนื่องจากหัวใจหลักของการทำหม้อไฟยังคงต้องใช้สูตรอาหารอันเป็นต้นตำหรับในการอ้างอิง การแข่งขันทางด้านรสชาติจึงไม่เพียงพอสำหรับดึงดูดลูกค้าให้เลือกร้านของตนเองได้ ผู้ประกอบการของร้านหม้อไฟต้องปรับตัวและสร้างอิทธิพลของแบรนด์ในด้านอื่น ๆ เช่น มีราคาที่คุ้มค่า มีชื่อเสียงโด่งดัง มีกิจกรรมส่งเสริมการตลาด มีการเดินทางที่สะดวก รวมทั้งสร้างความประทับใจในการบริการ เป็นต้น ซึ่งธุรกิจหม้อไฟของจีนถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการบริหารธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เพียงแค่มีอาหารอร่อยและราคาถูกยังไม่เพียงพอที่จะอยู่รอดในสภาวการณ์แข่งขันที่สูงเฉกเช่นในปัจจุบันได้ ร้านอาหารจะต้องมีบริการที่สามารถซื้อใจกลุ่มผู้บริโภคท่ามกลางตัวเลือกอันหลากหลายได้อีกด้วย
________________________________________________________________________________
จัดทำโดย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครเซี่ยงไฮ้
วันที่ 22 มีนาคม 2567
แหล่งที่มา
https://www.iimedia.cn/c400/98484.html