เมื่อวันพุธที่ 6 มีนาคม 2567 ธนาคารกลางแห่งอียิปต์ (CBE) ได้ประกาศใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว เพื่อให้มูลค่าของเงินปอนด์อียิปต์เป็นไปตามราคากลไกตลาด และ CBE ยังขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 600 จุดพื้นฐาน (ร้อยละ 6) โดยค่าของสกุลเงินอียิปต์ได้ลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หนึ่งดอลลาร์สหรัฐเท่ากับประมาณ 50 EGP ณ เวลาที่เผยแพร่ เทียบกับเกือบ 30.90 EGP ในวันก่อนหน้า
การตัดสินใจลอยตัวของสกุลเงินมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมอัตราแลกเปลี่ยนและกำจัดตลาดคู่ขนานที่เกิดจากการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดภาวะเงินเฟ้อและช่วยเหลือประชาชน ธนาคารกลางอียิปต์ได้เริ่มให้เงินดอลลาร์ในปริมาณมากผ่านทางธนาคารต่างๆ เพื่อครอบคลุมการดำเนินการนำเข้า
เศรษฐกิจของอียิปต์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูง การขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ และการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มมากขึ้น แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยแตะระดับ 14.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งปัญหาการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศยังเป็นปัญหาสำคัญ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเกิดผลกระทบในระยะสั้น เช่น ราคาสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลง
ข้อเสนอแนะ/ข้อคิดเห็น
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ธุรกิจและนักเดินทางหันมาใช้ตลาดนอกระบบ โดยหลักๆ เพื่อรักษาความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐในประเทศ ที่ต้องพึ่งพาการนำเข้ามากกว่าการผลิตในท้องถิ่น โดยเฉพาะข้าวสาลี ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่สำคัญในประเทศ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจในประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้มีตลาดอัตราแลกเปลี่ยนคู่ขนานและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จำกัด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยเงินปอนด์อียิปต์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มานานหลายเดือน ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำเป็นต้องขึ้นราคา โดยเฉพาะข้าวสาลี ข้าว น้ำตาล และน้ำมันปรุงอาหาร ซึ่งส่งผลกระทบต่อครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำ
ในเดือนตุลาคม 2565 CBE ลอยตัวค่าเงินปอนด์อียิปต์เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ถดถอย และปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดโดยโครงการเงินกู้ ที่เสนอโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยข้อตกลงเบื้องต้นระบุว่าอียิปต์จะได้รับประโยชน์จากเงินกู้มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในระยะเวลา 46 เดือนภายใต้กองทุนขยายผล (EFF) ของ IMF โดยมีเงื่อนไขว่าอียิปต์จะผ่อนคลายการควบคุมของรัฐและทหารต่อเศรษฐกิจ และใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว
ตามแถลงการณ์ที่ไม่ได้รับการยืนยัน คาดว่าเงินกู้ของ IMF จะเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ และการขาดดุลงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ และอียิปต์ยังได้ดำเนินการขายทรัพย์สินของรัฐเพื่อจัดการกับปัญหาทางการเงิน เช่น ข้อตกลง Ras El-Hekma ที่ลงนามเมื่อเร็วๆ นี้กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยรัฐบาลได้รับเงินจำนวน 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลงทุนพัฒนาชายฝั่งทางเหนือ (North Coast) ให้เป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอียิปต์
เศรษฐกิจอียิปต์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการเข้มงวดของรัฐบาล การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ผลกระทบจากสงครามในยูเครน และ ล่าสุดคือสงครามอิสราเอล-ฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งสั่นคลอนเศรษฐกิจโลก ส่งผลกระทบต่ออียิปต์ ที่เป็นผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นประเทศอาหรับที่มีประชากรมากที่สุดกว่า 105 ล้านคน
____________________________________
ที่มา https://www.newarab.com/news/egypts-central-bank-floats-egyptian-pound-against-us-dollar
Thai 
English 
Chinese 
Japanese 
German