จากข้อมูลประกอบการเวียดนาม ต้นทุนการขนส่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของต้นทุนโลจิสติกส์ ขณะประเทศอื่นๆ คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 30 นาย Nguyen Dinh Tung ประธานบริษัท Vina T&T Import Export Trading Service Co กล่าวว่าต้นทุนด้าน
โลจิสติกส์เทียบเท่าร้อยละ 30 ของรายได้ของบริษัท
ผู้ส่งออกผลไม้จำนวนมากเลือกที่ใช้การขนส่งทางอากาศเพื่อรักษาความสดของสินค้าผลไม้ไว้เป็นเวลานานอย่างไรก็ตาม การขนส่งทางอากาศทั้งเป็นรูปแบบการขนส่งที่มีต้นทุนสุง อีกทั้งหากสายการบินต่างประเทศปรับค่าขนส่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อ
ผู้ส่งออกเวียดนาม โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่เป็นผลไม้และพืชสด
นาง Le Hang ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลเวียดนาม (The Vietnam Association of Seafood Exporters and Producers: VASEP) กล่าวว่า ท่ามกลางความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในทะเลแดง บริษัทเรือเดินสมุทรจากต่างประเทศกลับกลายเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเพิ่มราคาค่าขนส่งสินค้าและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ราคาค่าขนส่งทางทะเลไปยังแคนาดา สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 – 300 เป็นผลจากความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ทำให้เรือเดินสมุทรต้องเปลี่ยนเส้นทาง อีกทั้งยังใช้เวลาในการขนส่งที่ยาวนานขึ้นและค่าใช้จ่ายสูงขึ้นไปด้วย
ประธานบริษัท Sao Ta Foods Joint Stock Company Ho Quoc Luc กล่าวว่า ต้นทุนโลจิสติกส์มีความผันผวนอย่างมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไปยังสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันมีราคา 13,000-14,000 เหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดใหญ่ของเชื้อโควิด-19 ที่ค่าขนส่งอยู่ที่ 3,000 เหรียญสหรัฐฯ ด้วยต้นทุนโลจิสติกส์ที่มีราคาที่สูงอาจทำให้ผู้ส่งออกเปลี่ยนมาขายสินค้าในตลาดใกล้เคียง เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แทน
ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า เวียดนามยังคงจำเป็นต้องพัฒนาศูนย์โลจิสติกส์หลากหลายมากขึ้น ในเวลาเดียวกัน แนวโน้มของการประยุกต์การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ในโลจิสติกส์จำเป็นต้องได้รับการส่งเสริมอย่างรวดเร็วเพื่อปรับปรุงต้นทุน ขณะเดียวกัน จำเป็นต้องวางแผนและสร้างศูนย์โลจิสติกส์ทางการเกษตร รวมถึงคลังสินค้าเย็นสำหรับการจำแนกประเภท การเก็บรักษา และการประมวลผลเบื้องต้น เพื่อปรับปรุงคุณภาพและราคาให้คงที่ เพิ่มการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์สำหรับสินค้าเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่การผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ ในทางกลับกัน การเชื่อมต่อทางน้ำ ถนน และทางรถไฟ ส่งเสริมความแข็งแกร่งโดยรวมของโลจิสติกส์ภายในประเทศ
(จาก https://en.vietnamplus.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
การส่งออกสินค้าเกษตรมีบทบาทสำคัญและเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ของการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของเวียดนาม ในปี 2566 เวียดนามส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่า 5600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.7 เมื่อเที่ยบกับปี 2565 อีกทั้ง ต้นทุนด้าน
โลจิสติกส์ที่สูงขึ้นสร้างปัญหาให้กับภาคเกษตรกรรมของเวียดนาม เนื่องจากต้นทุนการขนส่งมีส่วนสำคัญต่อราคาสินค้าเกษตร เมื่อความต้องการขนส่งทางเรือเพิ่มขึ้น ค่าขนส่งก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของเวียดนามไปยังประเทศต่างๆ และต้องเผชิญกับการแข่งขันในการส่งออกกับประเทศในภูมิภาค เช่น จีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น หากสถานการโลกไม่ดีขึ้นอาจะส่งผลต่อการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดสำคัญของเวียดนาม และ ไทย อย่างไรก็ตาม เวียดนามจะหาแนวทางในการพัฒนาบริการโลจิสติกส์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าทั้งภายในและต่างประเทศ โดยนาย Pham Minh Chinh นายรัฐมนตรีเวียดนามได้มีการอนุมัติแผนการเพื่อปรับขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาบริการด้านโลจิสติกส์ของเวียดนามถึงปี 2568 เพื่อในอนาคต อุตสหรรกโลจิสติกส์จะมีบทบาทสำคัญและเป็นหนึ่งในเสาหลักของเศรษฐกิจเวียดนามมากขึ้น