กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม (Ministry of Agriculture and Rural Development: MARD) ระบุว่าการส่งออกผักและผลไม้คาดว่าจะสร้างสถิติใหม่ในปี 2567 ซึ่งอาจมีมูลค่า 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเกินเป้าหมาย 6,000
ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยที่กระทรวงฯจะดำเนินโครงการต่างๆเพื่อส่งเสริมการส่งออกผักและผลไม้ปี 2567 แม้จะมีความท้าทายหลายประการแต่ปี 2566 ภาคผักผลไม้ก็ยังเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้
ตามสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม (General Department of Vietnam Customs) มูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามในปี 2566 มีมูลค่าประมาณ 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยผลไม้ที่มูลค่าส่งออกสูงสุดคือทุเรียน รองมาคือแก้วมังกร
ปัจจุบันผู้นำเข้าผักและผลไม้รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ไทย เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และรัสเซีย จีนยังคงเป็นตลาดนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเวียดนาม โดยมีมูลค่าการนำเข้าสูงถึง 3,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2566 ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 250 และมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปี 2565
นางสาว Ngo Tuong Vy ผู้จัดการของบริษัท Chanh Thu Fruit Export Group JSC กล่าวว่า รายได้ของบริษัทในปี 2566 เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากปีก่อน เนื่องจากการส่งออกทุเรียนและเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมด นาย Phung Duc Tien รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท จะเร่งการเจรจาเพื่อส่งเสริมการส่งออกของพริกสดและมะพร้าวสดของเวียดนามเข้าไปสู่ตลาดจีนอย่างเป็นทางการ รวมทั้งทุเรียนแช่แข็งของเวียดนามที่จะได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปยังประเทศจีนในช่วงต้นเดือนของปี 2567 นอกจากนั้นการส่งออกสินค้าที่อย่างเป็นทางการไปยังประเทศจีนจะเพิ่มอีก 3 รายการ ได้แก่ สมุนไพร มะพร้าว และผลไม้แช่แข็ง โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นาย Nguyen Khac Tien ประธานกรรมการบริษัทของ Ameii Vietnam JSC กล่าวว่า การสำรวจตลาดแสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวจีนชื่นชอบสินค้าทุเรียนแปรรูป ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำหรับเวียดนามในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มจากทุเรียนมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน นาย Dang Phuc Nguyen เลขาธิการสมาคมผักและผลไม้เวียดนาม (Vietnam Fruit And Vegetables Association: VINAFRUIT) กล่าวว่า การส่งออกแตงโมของเวียดนามอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า โดยมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นผลจากการที่จีนอนุญาตให้นำเข้าแตงโมสดจากเวียดนามซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปีนี้
(จาก https://en.vietnamplus.vn/)
ข้อคิดเห็น สคต
ในปี 2566 การส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามมีมูลค่า 5,690 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทุเรียนเป็นสินค้าที่มีการเติบโตที่น่าประทับใจที่สุด โดยมีมูลค่าถึง 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพราะตลาดจีนเพียงประเทศเดียวที่นำเข้าทุเรียนจากเวียดนามมากกว่า 1.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 69 จากปี 2565 โดยมีมูลค่ารวม 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2567 การส่งออกผักและผลไม้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับปี 2566 นอกจากนี้ ประเทศอื่นๆ มีการเติบโตที่ดีเช่นกัน สาธารณรัฐเช็ก แคนาดา สหรัฐอเมริกา และปาปัวนิวกินี นาย Dang Phuc Nguyen สมาคมผักและผลไม้เวียดนาม (VINAFRUIT) กล่าวว่า
ในปี 2567 หากจีนอนุญาตให้นำเข้าทุเรียนแช่แข็งของเวียดนามอย่างเป็นทางการ การส่งออกทุเรียนอาจมีมูลค่า 3,500
ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 55 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แบ่งเป็นทุเรียนสดกว่า 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทุเรียนแช่แข็งกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การส่งออกทุเรียนและผลไม้อื่นๆ ของเวียดนามไปยังจีนผ่านทางด่านชายแดนทางบกซึ่งช่วยประหยัดเวลาและต้นทุน ทำให้ทุเรียนเวียดนามมีราคาที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าทุเรียนชนิดเดียวกันที่นำเข้าจากประเทศอื่น