เศรษฐกิจและการค้ากาตาร์

GDP ปี 2567 ของกาตาร์จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2

Fitch Solutions ระบุว่า GDP ปี 2567 ของกาตาร์จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เนื่องจากการลงทุนที่แข็งแกร่ง และการบริโภคภาครัฐและเอกชนจะมีบทบาทสำคัญในการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน อย่างไรก็ตาม Fitch Solutions ตั้งข้อสังเกตว่าในปี 2566 การเติบโตของ GDP ที่แท้จริงอยู่ที่ร้อยละ 1 หลังจากที่ GDP ลดลงในช่วงไตรมาสที่สองของปี
Fitch Solutions ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตในปี 2566 จากเดิมร้อยละ 2.1 เนื่องจากการปรับลดการเติบโตในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 (จากร้อยละ 2.7 ต่อปีเป็นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับปีก่อน) และการลดลงในการเติบโตในไตรมาสที่ 2 ปี 2566
รายงานเน้นย้ำว่า การแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเป็นปัจจัยที่สำคัญและผลักดันเศรษฐกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน ให้แข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปีปี 2567 กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่ใช่น้ำมันคาดว่าจะดีขึ้น และจะเป็นปัจจัยหลักในการเร่งการเติบโต โดยรายงานสรุปปัจจัยหลัก 3 ประการ ในการผลักดันเศรษฐกิจ ได้แก่

ประการที่ 1 การแข่งขัน AFC Asian Football Cup และ World Aquatics Championships ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ในปี 2567 จะช่วยผลักดันการเติบโตเป็นเลขสองหลักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในกิจกรรมที่ไม่ใช่น้ำมันในช่วงไตรมาสแรกของปีเชื่อกันว่ากิจกรรมระดับโลกเหล่านี้สามารถดึงดูดผู้เข้าชมมายังประเทศได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมการส่งออกบริการ
ประการที่ 2 รัฐบาลประกาศโครงการมูลค่า 19.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (69.91 พันล้าน QR) ที่จะดำเนินการตลอดทั้งปีในภาคธุรกจิไฟฟ้าและน้ำ ภาคการดูแลสุขภาพ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ
ประการที่ 3 เมื่อรวมกับต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นคาดว่าจะมีส่วนช่วยให้การลงทุนคงที่และการบริโภคภาครัฐเติบโตในปีต่อๆ ไป

Source: https://m.thepeninsulaqatar.com/article/02/01/2024/qatars-gdp-growth-to-rebound-by-2-
in-2024-fitch

กาตาร์เกินดุลการค้าแตะ 16.7 พันล้านริยัลกาตาร์

เดือนพฤศจิกายน 2566 ดุลการค้าของกาตาร์ซึ่งแสดงถึงส่วนต่างระหว่างการส่งออกและการนำเข้าทั้งหมด มีการเกินดุล 16.7 พันล้านริยัลกาตาร์ลดลงประมาณ 9.5 พันล้านริยัลกาตาร์หรือร้อยละ 36.3 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2565 และลดลง เกือบ 2.3 พันล้านริยัลกาตาร์หรือร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม2566 ตามข้อมูลของหน่วยงานการวางแผนและสถิติที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2567

เดือนพฤศจิกายน 2566 การส่งออกสินค้าทั้งหมด (รวมถึงการส่งออกสินค้าที่มีต้นกำเนิดในประเทศและการส่งออกสินค้ากลับไปนอกราชอาณาจักร (re-export)) มีมูลค่าประมาณ 26.5 พันล้านริยัลกาตาร์ซึ่งลดลงร้อยละ 28.6 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2565 และลดลงร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2566 ในทางกลับกัน การนำเข้าสินค้าในเดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่าประมาณ 9.8 พันล้านริยัลกาตาร์ซึ่งลดลงร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2565 และลดลงร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2566

เมื่อเทียบเป็นรายปี (พฤศจิกายน 2023 เทียบกับพฤศจิกายน 2022) การส่งออกรวมที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกก๊าซปิโตรเลียมและก๊าซไฮโดรคาร์บอนอื่นๆ (LNG, คอนเดนเสท, โพรเพน, บิวเทน ฯลฯ) ที่ลดลงถึง 16.6 พันล้าน QR (โดยประมาณ) ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2566 ลดลงร้อยละ 32.6 น้ำมันปิโตรเลียมและน้ำมันจากแร่ธาตุบิทูมินัส (น้ำมันดิบ) มีมูลค่าถึง 3.7 พันล้านริยัลกาตาร์ลดลงร้อยละ 28.9 และน้ำมันปิโตรเลียมและ
น้ำมันจากแร่บิทูมินัส (ไม่ใช่น้ำมันดิบ) มีมูลค่าถึง 2.4 พันล้านริยัลกาตาร์ลดลงร้อยละ 12.7

ในเดือนพฤศจิกายน 2566 จีนอยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศปลายทางการส่งออกของกาตาร์ โดยมีมูลค่าเกือบ 5.4 พันล้านริยัลกาตาร์คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 20.4 ของการส่งออกทั้งหมด ตามมาด้วยอินเดียที่มีมูลค่าเกือบ 3.7 พันล้านริยัลกาตาร์และส่วนแบ่งร้อยละ 13.8 และญี่ปุ่น ด้วยมูลค่าประมาณ 2.8 พันล้านริยัลกาตาร์ส่วนแบ่ง 10.6 เปอร์เซ็นต์

เมื่อเทียบเป็นรายปี (พฤศจิกายน 2566 เทียบกับพฤศจิกายน 2565) กลุ่ม “เทอร์โบเจ็ท ใบพัดเทอร์โบ และกังหันก๊าซอื่นๆ ชิ้นส่วนดังกล่าว” อยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่มสินค้านำเข้า โดยมีมูลค่า 1 พันล้านริยัลกาตาร์เพิ่มขึ้น 47.9 เปอร์เซ็นต์ อันดับที่สอง ได้แก่ “ยานยนต์และยานยนต์อื่นๆ เพื่อการขนส่งบุคคล” ด้วยมูลค่า 0.39พันล้านริยัลกาตาร์ลดลงร้อยละ 3.4 และอันดับที่สาม คือ “อุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโทรศัพท์สาย/โทรเลข ชุดโทรศัพท์ ฯลฯ ชิ้นส่วนดังกล่าว” ด้วยมูลค่า 0.36 พันล้านริยัลกาตาร์ลดลงร้อยละ 4.7

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 จีนเป็นประเทศที่กาตาค์นำเข้ามากสุด โดยมีมูลค่าประมาณ 1.51 พันล้านริยัลกาตาร์คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 15.4 ของการนำเข้า รองลงมา คือ สหรัฐอเมริกาด้วยมูลค่าเกือบ 1.47 พันล้านริยัลกาตาร์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 และอิตาลีด้วย 0.7 พันล้านริยัลกาตาร์ส่วนแบ่ง 7.6 เปอร์เซ็นต์

Source: https://m.thepeninsulaqatar.com/article/02/01/2024/qatar-trade-surplus-reaches-qr167bn