เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 นาย Jensen Huang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia พบหารือกับนายกรัฐมนตรี Pham Minh Chinh ณ กรุงฮานอย ในการเดินทางเยือนเวียดนามเป็นครั้งแรกนั้น นาย Jensen Huang กล่าวว่า เรามองเวียดนามเป็นเหมือนบ้าน และยืนยันแผนที่จะตั้งศูนย์การดำเนินงานในเวียดนาม

บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ Nvidia จากสหรัฐฯ เล็งตั้งฐานในเวียดนาม

ฐานการผลิตนี้จะดึงดูดนักลงทุนมาลงทุนในตลาดอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ และธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในเวียดนาม และส่งเสริมสตาร์ทอัพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในประเทศ โดยปัจจุบัน Nvidia มีการลงทุนในเวียดนามแล้ว 250 ล้านเหรียญสหรัฐ และถือว่าเวียดนามเป็นตลาดที่สําคัญ

นาย Jensen Huang กล่าวเสริมว่า ความสัมพันธ์อันดีระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ ได้สร้างเงื่อนไขที่ดีและเป็นรากฐานสําหรับความร่วมมือในอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำและ AI เรายังให้ความสําคัญกับศักยภาพ โอกาสที่ดี กลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และแนวทางที่ชัดเจนของเวียดนาม รวมถึงการมุ่งเน้นไปที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ และธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ คนเวียดนามมีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ และประเทศเวียดนามมีความสามารถด้านซอฟต์แวร์ และตําแหน่งที่ดีมากในการพัฒนาอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำและ AI

นายกรัฐมนตรี Pham Minh Chinh เน้นย้ำว่า ในความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เวียดนามและสหรัฐฯ ตกลงร่วมกันสร้างวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นเสาหลักใหม่ที่สำคัญ ดังนั้น จึงควรให้ความสําคัญ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ ซึ่งในอุตสาหกรรมนี้มีวิศวกรประมาณ 6,000 คน คาดว่าในปี 2573 จํานวนวิศวกรคุณภาพสูงจะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คน โดยให้ความสําคัญกับการฝึกอบรมวิศวกรออกแบบวงจร

นายกรัฐมนตรีขอให้ Nvidia กําหนดวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ในการร่วมมือ และร่วมมือกับเวียดนามในการสร้างและดําเนินการตามยุทธศาสตร์อุปกรณ์สารกึ่งตัวนำแห่งชาติ และพัฒนาระบบอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำในทั้งสามขั้นตอนของการออกแบบโรงงานชิปได้แก่ การก่อสร้าง การบรรจุ และการทดสอบ

นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ของบริษัท Nvidia สําหรับการประเมินและการเจรจากับบรรดาบริษัทเทคโนโลยีของเวียดนาม เพื่อทำข้อตกลงความร่วมมือในด้านอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ

(แหล่งที่มา https://en.vietnamplus.vn/ ฉบับวันที่ 11 ธันวาคม 2566)

วิเคราะห์ผลกระทบ

ประเทศเวียดนามได้รับความสนใจจากบริษัท Nvidia เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และทำให้บริษัทต่างๆ ต้องเริ่มหาทางย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อลดความเสี่ยงในด้านการค้าที่จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับอานิสงส์ไม่น้อยจากสถานการณ์ดังกล่าว และมีบริษัทระดับโลกอย่างอินเทล (Intel) ที่กำลังพยายามรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมการออกแบบชิป และอาจรวมถึงการผลิตชิปในเวียดนาม นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรี Pham Minh Chinh มีความสนใจอย่างมากในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำในเวียดนาม พร้อมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่าง เวียดนามและสหรัฐฯ ในการเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบนิเวศนวัตกรรมและอุตสาหกรรมอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ

นำเสนอโอกาส/แนวทาง

เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) คือ สารกึ่งตัวนำมีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าและเป็นฉนวนได้ในเวลาเดียวกัน จึงมีความเหมาะสมสำหรับนำไปใช้เป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิป แผงวงจรซึ่งถูกใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ รถยนต์ เป็นต้น อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำของเวียดนาม มีความสำคัญอย่างมากในห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ธุรกิจไทยอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ควรติดตามข้อมูล และใช้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในเวียดนาม

 

thThai