ภาวะการค้าระหว่างประเทศของอินเดีย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2566

การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่า 62.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 1.23% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน ปี 2565 ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 67.88 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 6.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเมษายน – พฤศจิกายน 2566 มีมูลค่า 499.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 1.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน–พฤศจิกายน 2566 มีมูลค่า 560.90 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 7.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
.
1. การค้าสินค้า
การส่งออก
เดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่า 33.90 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 34.89 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 23.61 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 24.30 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ แร่เหล็ก ผักและผลไม้ เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม กากพืชน้ำมัน ถ่านหินและแร่มีค่า สินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ธัญพืช เมล็ดพืชน้ำมัน ข้าว ผลิตภัณฑ์จากปอกระเจา ผลิตภัณฑ์จากหนัง
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-พฤศจิกายน 2566) มีมูลค่า 278.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 298.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 202.05 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 206.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
การนำเข้า
เดือนพฤศจิกายน 2566 มีมูลค่า 54.48 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 56.95 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 34.62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 34.95 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ เงิน เมล็ดธัญพืช ผักและผลไม้ แร่โลหะและแร่อื่นๆ ผลิตภัณฑ์จากหนัง สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ พลอยเนื้อแข็งและพลอยเนื้ออ่อน ปุ๋ยและวัตถุดิบผลิตปุ๋ย ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย น้ำมันพืชสำหรับบริโภค กระดาษหนังสือพิมพ์
ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-พฤศจิกายน 2566) มีมูลค่า 445.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 487.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 281.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 294.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ดุลการค้าสินค้า
เดือนพฤศจิกายน 2566 ขาดดุลการค้า 20.58 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 22.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าสะสม 8 เดือนแรกมูลค่า 166.35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 189.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

.
2. การค้าบริการ*
เดือนพฤศจิกายน 2566 การส่งออกบริการมีมูลค่า 28.69 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 26.93 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 13.40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 15.39 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 15.29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 11.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการบริการ 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-พฤศจิกายน 2566) มีมูลค่าเกินดุล 104.91 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วง 8 เดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 88.83 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
.
ข้อคิดเห็น
1. อินเดียขาดดุลการค้าสินค้าในเดือนพฤศจิกายน 2566 ลดลงเกือบ 35% เพราะมีการนำเข้าทองคำปริมาณมากเมื่อเดือนเดือนตุลาคม 2566 สำหรับรองรับเทศกาลดิวาลี แต่ยังคงขาดดุลเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 6.24% เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและฤดูกาลของการแต่งงาน ซึ่งสะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจอินเดียที่ฟื้นตัวอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนภาคส่งออกฟื้นตัวเล็กน้อยและยังเผชิญกับผลกระทบอัตราเงินเฟ้อสูงและการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะฝั่งยุโรป
.
2. GDP ของอินเดียในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2024 เติบโต 7.6% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของธนาคารกลางอินเดียที่ระดับ 6.5% โดยอุตสาหกรรมหลักที่เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของ GDP อินเดีย ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการก่อสร้าง ซึ่งเติบโตถึง 13.9% และ 13.3% ตามลำดับ และภาคการส่งออกของอินเดียมีส่วนช่วยดันให้ GDP ประเทศเติบโต โดยคิดเป็นสัดส่วน 21.9% ในไตรมาสที่ 2 ปัจจัยหลักที่เป็นตัวสนับสนุนภาคการผลิตอินเดีย ได้แก่ นโยบายกระตุ้นการผลิตภายในประเทศ (Production-Linked Incentive : PLI) ซึ่งหมวดสินค้าที่ได้รับอาณิสงค์อย่างมากได้แก่ มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวได้เอื้อสิทธิประโยชน์ให้แก่สินค้าหลายหมวดหมู่ทั้งผู้ประกอบการในประเทศรวมถึงผู้ประกอบการจากต่างประเทศที่สนใจเข้ามาดำเนินธุรกิจในอินเดีย
***********************************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี
.
* หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนตุลาคม 2566 ในส่วนของข้อมูลของเดือนพฤศจิกายน 2566 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป
.
ข้อมูลอ้างอิง:
– Ministry of Commerce and Industry, 15 Dec 2023, Latest Trade Figures
– Mint, 16 Dec 2023, India’s trade deficit Shrinks to $20.58 billion in November, imports fall by 4.3%
– India Forbs, 11 Dec 2023, GDP of India: Current and historical growth rate, India’s rank in the world

thThai