ภาวะการค้าระหว่างประเทศของอินเดีย ประจำเดือนตุลาคม 2566

การส่งออกของอินเดียโดยรวม (สินค้าและบริการ) ในเดือนตุลาคม 2566 มีมูลค่า 62.26 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 9.43% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ปี 2565 ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 79.35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

.

การส่งออกรวมภาคสินค้าและบริการของอินเดียสะสมระหว่างเมษายน – ตุลาคม 2566 มีมูลค่ารวม 437.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 1.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้าสะสมระหว่างเมษายน–ตุลาคม 2566 มีมูลค่า 495.17 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 7.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

.

1. การค้าสินค้า
การส่งออก
เดือนตุลาคม 2566 มีมูลค่า 33.57 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 31.60 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 24.57 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 21.99 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ แร่เหล็ก เซรามิกและเครื่องแก้ว ยาสูบ ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม สินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ธัญพืช ข้าว ถ่านหินและแร่ธาตุ อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งทอ
ขณะที่ภาพรวมการส่งออกสินค้า 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-ตุลาคม 2566) มีมูลค่า 244.89 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 263.33 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 178.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 182.24 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
การนำเข้า
เดือนตุลาคม 2566 มีมูลค่า 65.03 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 57.91 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 36.87 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 35.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้านำเข้าสำคัญที่ขยายตัวดี ได้แก่ เงิน ซัลเฟอร์และเหล็กที่ยังไม่ขึ้นรูป เมล็ดธัญพืช ทอง ผักและผลไม้ สินค้านำเข้าสำคัญที่หดตัว ได้แก่ ฝ้ายและผลิตภัณฑ์จากฝ้าย น้ำมันพืชสำหรับบริโภค ปุ๋ยและส่วนประกอบ อุปกรณ์ด้านการขนส่ง เยื่อกระดาษและกระดาษใช้แล้ว
ภาพรวมการนำเข้าสินค้า 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-ตุลาคม 2566) มีมูลค่า 391.96 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 430.47 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันและอัญมณีและเครื่องประดับแล้วมีมูลค่า 246.50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ น้อยกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 260.01 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ดุลการค้าสินค้า
เดือนตุลาคม 2566 ขาดดุลการค้า 31.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าขาดดุลที่ระดับ 26.31 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้อินเดียขาดดุลการค้าสะสม 7 เดือนแรกมูลค่า 147.07 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งขาดดุลลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ขาดดุล 167.14 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

.

2. การค้าบริการ*
เดือนตุลาคม 2566 การส่งออกบริการมีมูลค่า 28.70 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 25.30 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ การนำเข้า มีมูลค่า 14.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 13.51 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ดุลการค้า เกินดุลมูลค่า 14.38 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนที่ระดับ 11.79 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
ภาพรวมการบริการ 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2023-2024 (เมษายน-ตุลาคม 2566) มีมูลค่าเกินดุล 89.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ มากกว่าช่วง 7 เดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ระดับ 77.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

.

ข้อคิดเห็น
1. อินเดียขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบปีที่ระดับ 31.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 20.50 พันล้านเหรียญสหรัฐ สาเหตุหลักมาจากการนำเข้าทองคำปริมาณมากถึง 7.23 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 95% จากปีก่อน เพื่อรองรับการบริโภคระหว่างเทศกาลเฉลิมฉลองสำคัญในช่วงปลายปีทั้งเทศกาลดิวาลี และงานแต่งงาน ส่วนภาคการส่งออกสินค้าของอินเดียไปตลาดโลกยังคงมีปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในหลายประเทศที่กระทบต่อความต้องการสินค้าจากอินเดีย แต่ตัวเลขส่งออกสินค้าโดยรวมยังคงเป็นที่น่าพอใจ โดยเดือนนี้ขยายตัว 6.3% เทียบก็ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าส่งออกหลักเป็นสินค้าด้านวิศวกรรม ยา และเครื่องใช้ไฟฟ้า
2. ธนาคารกลางของอินเดียมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มสดใสโดยคาดการณ์ GDP เติบโต 6.5% สำหรับปีงบประมาณ 2023-2024 แม้ประเทศกำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อแต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคและงบดุลในหลายอุตสาหกรรมที่แข็งแรง เช่น การก่อสร้าง การท่องเที่ยว การขนส่ง และการบริการด้านการเงิน รวมถึงการลงทุนในภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และช่วงเทศกาลที่จะเกิดขึ้นช่วงท้ายปีจะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศและเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า
*****************************
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี
*หมายเหตุ: จากข้อมูลล่าสุดของธนาคารกลางอินเดีย ข้อมูลภาคบริการเปิดเผยถึงเดือนกันยายน 2566 ในส่วนของข้อมูลของเดือนตุลาคม 2566 เป็นเพียงการประมาณการ ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเปิดเผยข้อมูลครั้งต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง:
– Ministry of Commerce and Industry, 15 Nov 2023, Latest Trade Figures
– Money Control, 16 Nov 2023, India’s trade deficit hits record high in October as gold imports double
– CNBC, 20 Oct 2023, India’s GDP growth projected at 6.5% in FY 2023-24 despite global headwinds: RBI governor

thThai