ที่มา : Bernama
รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาในภูมิภาคซาบาห์ และซาราวักผ่านโครงการต่างๆ
และความคิดริเริ่มใหม่ๆ ในช่วงสุดท้ายของแผนมาเลเซียฉบับที่ 12 (12MP) รายงานโดยนายกรัฐมนตรี ฯพณฯ อันวาร์ อิบราฮิมเพื่อให้แน่ใจถึงการพัฒนาของรัฐซาบาห์ ซึ่งรัฐบาลกลางจะโอนอำนาจกำกับดูแลไฟฟ้าให้
กับรัฐบาลประจำรัฐฯ โดยการถ่ายโอนพลังงานซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมกราคมปีหน้า (2567) รัฐบาลซาบาห์มีอำนาจในการควบคุมการจัดหาก๊าซและไฟฟ้าตามผลประโยชน์ของรัฐฯ
นอกจากนี้ เขากล่าวว่าโครงการพัฒนาระบบพลังงานทดแทนและอัปเกรดระบบจ่ายไฟฟ้า
ใน Gugusan Felda Sahabat (Felda) จะถูกนำไปใช้เพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือของแหล่งจ่ายไฟฟ้าในรัฐฯ โครงการดังกล่าวมีมูลค่าถึง 195 ล้านริงกิต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่และกองบัญชาการความมั่นคงซาบาห์ตะวันออก (ESSCOM) ฯพณฯ อันวาร์ยังกล่าวอีกว่าจะมีการจัดตั้งศูนย์โลหิตระดับภูมิภาค
ในเมืองซาบาห์ ในขณะที่ห้องปฏิบัติการด้านสาธารณสุข ตลอดจนห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัย
และคุณภาพของอาหารจะถูกสร้างขึ้นในเมือง Kuching รัฐซาราวัก เพื่อให้บริการด้านสุขภาพที่เท่าเทียมกัน
มากขึ้น
ซาบาห์และซาราวักจะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์
ที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น ด้วยการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างรัฐซาราวัก-ซาบาห์ Link Road II และการก่อสร้างทางหลวงในรัฐซาบาห์ the Sabah Pan Borneo Highway Phase 1B รัฐบาลยังดำเนินโครงการพิเศษ
the Sarawak Bumiputera Special Programme และโครงการพิเศษชนพื้นเมืองซาบาห์ the Sabah Natives Special programme เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น โดยภายใต้กรอบเศรษฐกิจ Madani (Madani Economy framework)
ความคิดเห็น สคต.
รัฐซาบาห์และซาราวักเป็นเมืองที่กำลังได้รับความสนใจและได้รับพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลกลางมาเลเซีย ซึ่งทั้ง 2 รัฐมีความมั่นคงและศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง อีกทั้ง รัฐซาบาห์และซาราวักถือเป็นศูนย์กลางทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียนตะวันออก (BIMP-EAGA) ประกอบไปด้วย ประเทศบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 77 ล้านคน
โดยโครงการการพัฒนาของรัฐบาลมาเลเซียที่จัดสรรในรัฐซาบาห์และซาราวักจะทำให้การดำเนินงานกิจการและธุรกิจต่างๆ มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ซึ่ง สำนักงานฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 80 แบรนด์ออกคูหา/ประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านโครงการ Mini Thailand Week 2023 ระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน 2566 ณ ศูนย์การแสดงสินค้านานาชาติ (SICC) เมืองโคตาคินาบาลู รัฐซาบาห์ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างเครือข่าย ขยายสินค้า และบริการไทย สู่ตลาดฝั่งมาเลเซียตะวันออกให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักธุรกิจนานาชาติ
มากยิ่งขึ้น
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์