เนื้อหาสาระข่าว: สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Retail Federation: NRF) ได้รายงานคาดการณ์ถึงช่วงเวลาที่การนำเข้าสินค้าทางเรือของสหรัฐฯ ค่อนข้างคึกคัก หรือ Peak Season ว่าจะพุ่งสูงไปถึงเดือนตุลาคม และมีแนวโน้มที่จะต่อเนื่องไปตลอดทั้งไตรมาสสี่ หรือจนถึงสิ้นปีนี้ โดยในข้อมูลเชิงสถิติทาง NRF ได้คาดการณ์ต่อเนื่องจากในเดือนสิงหาคมซึ่งมีการนำเข้าสินค้าจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2 ล้าน TEU (Twenty-foot equivalent unit) หรือตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต ว่ามีแนวโน้มจะต่อเนื่องถึงเดือนตุลาคม เพื่อต้อนรับยอดการสั่งซื้อก่อนเข้าสู่เทศกาลสิ้นปี โดยตัวเลขที่คาดการณ์ดังกล่าวถือว่าสูงกว่าร้อยละ 7 จากช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม ในปี 2019 โดยอาจจะสะดุดลงเล็กน้อยในช่วงปลายปี เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม แต่แม้กระนั้นก็ยังคงสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่จะมีโรคระบาดโควิด–19

ปัจจัยที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับสภาพการณ์ในข้างต้น มีเหตุผลมาจากต้นทุนค่าขนส่งทางเรือมายังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยค่าขนส่งมายังทั้งฝั่งตะวันตก (West Coast) และ ฝั่งตะวันออก (East Coast) ของสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่าร้อยละ 7 ซึ่งเป็นปัจจัยที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของ NRF ตามข้อมูลในตาราง

โอกาสการส่งออก เมื่อค่าขนส่งปรับตัวลดลง

บทวิเคราะห์ และข้อเสนอแนะ: สิ่งที่น่าสนใจจากข่าวที่ได้หยิบยกมาในสัปดาห์นี้ สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการส่งออกของผู้ส่งออกมายังสหรัฐอเมริกาจากการที่ค่าขนส่งทางเรือมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ย่อมหมายถึงต้นทุนสินค้าส่งออกที่ลดลงเพื่อการสต๊อกสินค้าสำหรับเทศกาลต่างๆ ในช่วงปลายปีตั้งแต่เทศกาลฮัลโลวีน เทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ ในช่วง 3 เดือนที่เหลือ โดยเทศกาลต่างๆ ที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคสหรัฐฯ มีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภคกันมากที่สุด อย่างไรก็ตามผู้ส่งออกควรศึกษาแนวโน้ม และพฤติกรรมของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพื่อให้ให้ได้สินค้าที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาด

*********************************************************

ที่มา: American Journal of Transportation (AJOT)
เรื่อง: “Competing signs for rest of peak, as carriers contend with overcapacity
โดย: American Journal of Transportation (AJOT)
สคต. ไมอามี /วันที่ 15 กันยายน 2566
thThai