GDP ของรัฐซาบาห์ประเทศมาเลเซียเติบโตขึ้นร้อยละ 3.7 ในปี 2565

ที่มา : สำนักข่าว BERNAMA

สภานิติบัญญัติแห่งรัฐซาบาห์เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของรัฐซาบาห์เติบโตขึ้นร้อยละ 3.7 ในปี 2565 โดยมีมูลค่าเพิ่มเป็น 8.2 หมื่นล้านริงกิต จาก 7.9 หมื่นล้านริงกิตในปี 2564 โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี Datuk Abidin Madingkir กล่าวว่าการเติบโตในเชิงบวกของรัฐซาบาห์ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตอย่างมากในภาคบริการ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49.5 ของ GDP ของซาบาห์ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4.2 หมื่นล้านริงกิต

การเติบโตอย่างมากในภาคบริการของรัฐซาบาห์ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของภาคส่วนย่อยหลัก ได้แก่ การค้าส่งและค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม และที่พัก รองลงมาคือภาคบริการภาครัฐและภาคสาธารณูปโภค การขนส่งและการจัดเก็บ ตลอดจนสารสนเทศและการสื่อสาร

ในทางกลับกัน ภาคการเกษตรของรัฐซาบาห์มีมูลค่า 1.25 หมื่นล้านริงกิตในปี 2565 ลดลงร้อยละ 0.2 ซึ่งภาคการเกษตรเป็นส่วนที่ใหญ่เป็นอันดับสามรัฐซาบาห์ โดยมีสัดส่วนร้อยละ 15.2 ต่อ GDP โดยรวมของรัฐซาบาห์ อีกทั้ง ภาคส่วนย่อยของปาล์มน้ำมันมีอิทธิพลเหนือภาคเกษตรกรรมในซาบาห์ โดยมีสัดส่วนร้อยละ 9.6 ต่อ GDP โดยรวมของซาบาห์ ตามมาด้วยภาคการประมงที่ร้อยละ 2.5 พืชอื่นๆ ที่ร้อยละ 1.3 และปศุสัตว์ที่ร้อยละ 1.0

จากการคาดการณ์พบว่าภาคการผลิตมีการเติบโตติดลบร้อยละ 2.5 โดยมูลค่าเพิ่มลดลงเป็น 5.8 พันล้านริงกิต เทียบกับ 5.9 พันล้านริงกิตในปีก่อนหน้า จะส่งผลให้เกิดจากการหดตัวในการผลิตน้ำมันและไขมันจากผักและสัตว์ การแปรรูปอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ยาสูบ และภาคย่อยของผลิตภัณฑ์ไม้ เฟอร์นิเจอร์ ผลิตภัณฑ์กระดาษ และการพิมพ์

 

ความคิดเห็น สคต.

จากการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของรัฐซาบาห์ที่มีแนวโน้มเติบโต แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านเศรษฐกิจที่มีความน่าสนใจต่อการส่งเสริมสินค้าและบริการไทยเข้าไปทำตลาดที่รัฐซาบาห์ของมาเลเซีย จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าการเติบโตของ GDP ของรัฐซาบาห์เป็นผลมาจากการเติบโตของการค้าส่งและค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม และที่พัก สำนักงานฯ มีความเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมสินค้าไทยเข้าไปมีส่วนใน Market share ในรัฐซาบาห์ เนื่องจากสินค้าไทยมีชื่อเสียงในด้านของรสชาติและคุณภาพ อีกทั้ง ยังสามารถทำตลาดในภาคการบริการที่ต่อยอดมาจากภาคการบริการของรัฐให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น เช่น การนวดแผนไทย สปา และอื่นๆ ที่จะสามารถส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและที่พักที่กำลังเติบโตอย่างมากในรัฐซาบาห์

จากข้อมูลที่เปิดเผยจะแสดงให้เห็นถึงการลดลงในภาคการผลิตและภาคการเกษตรของรัฐซาบาห์    สำนักงานฯ มีความเห็นว่ารัฐซาบาห์ของมาเลเซียมีความต้องการในการพัฒนาการเกษตรให้ดีมากยิ่งขึ้นผ่านการนำเข้านวัตกรรมทางการเกษตรและการทำ Smart Farming ซึ่งไทยมีความรู้ความสามารถในด้านดังกล่าวและมีสินค้าและนวัตกรรมทางการเกษตรที่มีศักยภาพที่จะสามารถส่งออกมายังรัฐซาบาห์

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยที่สนใจส่งออกสินค้าและนวัตกรรมทางการเกษตรมาทำตลาดยังรัฐซาบาห์ประเทศมาเลเซีย สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ  กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสามารถเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าในมาเลเซียผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่สำนักงานจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

thThai