องค์กร Soil Association ได้รายงานว่าอาหารและเครื่องดื่ม Organic มีการเติบโตมากถึง 25.4% ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาและเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 ถึงแม้ว่าจะมีช่วงเศรษฐกิจซบเซาทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด สถานการณ์ค่าครองชีพ พลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่ายอดการใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกส์เฉลี่ยวันละ 8.5 ล้านปอนด์ต่อวัน ในขณะที่ร้านอาหารออร์แกนิกส์มีการเติบโตขึ้นถึง 152% ในปีที่ผ่านมา รวมถึงการเติบโตของสินค้าออร์แกนิกส์อื่นๆ เช่น เครื่องนุ่มห่มออร์แกนิกส์ เพิ่มขึ้น 35% และเครื่องประทินผิวออร์แกนิกส์เพิ่มขึ้น 6.8%

ผู้บริหารองค์กร Soil Association ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในช่วงปีที่ผ่านมาจนส่งผลให้ผู้บริโภคหลายรายต้องปรับตัวในการเลือกซื้อสินค้า แต่เป็นที่น่าสนใจว่าสินค้าออร์แกนิกส์ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2022 อาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกส์มียอดขายมากถึง 3,100 ล้านปอนด์ การเติบโตในปี 2022 มากขึ้น 1.6% แต่หากพิจารณาการเติบโตในรอบ 3 ปี อาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกส์มีการเติบโตถึง 25.4% อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลต่อการเลือกซื้อสินค้าที่ราคาต่ำกว่าสินค้าออร์แกนิกส์ แต่จากการสำรวจพบว่า    สินค้าออร์แกนิกส์ยังคงเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจถึงคุณภาพทั้งในเรื่องความยั่งยืนและเป็นสัญลักษณ์ของสินค้าเพื่อสุขภาพ ดังนั้น การเพิ่มผลผลิตสินค้า   ออร์แกนิกส์ให้มากขึ้นอาจจะส่งผลให้สินค้าที่วางจำหน่ายลดราคาลงจนผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ ทั้งนี้ Soil Association ได้สรุปผลการสำรวจสถานการณ์ตลาดสินค้าออร์แกนิกส์ในสหราชอาณาจักร ดังนี้

  1. ในปี 2022 ยอดขายสินค้าออร์แกนิกส์ในห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตลดลง 2.7% โดนมีมูลค่า 1,920 ล้านปอนด์
  2. ในปี 2022 ร้านอาหารที่ขายสินค้าออร์แกนิกส์มียอดขายมากถึง 195.5 ล้านปอนด์ เพิ่มขึ้นจาก 78.2 ล้านปอนด์ในปี 2021 โดยได้ธุรกิจเครื่องดื่ม (คาเฟ่) เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นยอดขาย
  3. การขายสินค้าออร์แกนิกส์โดยส่งถึงบ้านยอดขาย 558.3 ล้านปอนด์ โดยปัจจัยที่สำคัญในการเลือกซื้อของผู้บริโภคคือ นวัตรกรรม เทคโนโลยีในการผลิต รวมถึงการเพิ่มประเภทสินค้าที่ตอบสนองต่อความต้องการรักษาสุขภาพของผู้บริโภคในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด
  4. ร้านค้าปลีกรายเล็กประสบปัญหาในการคงลูกค้าเดิมที่เคยเลือกซื้อสินค้าในร้านในช่วงล็อกดาวน์ โดยยอดขายลดลงถึง 3.3% มีมูลค่าการค้า 432.1 ล้านปอนด์ แต่ยังคงมีแนวโน้มที่ร้านค้าปลีกรายย่อยจะสามารถเติบโตได้อีก
  5. ความต้องการบริโภคสินค้าออร์แกนิกส์ทั่งโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ผ้าฝ้ายออร์แกนิกส์ที่ได้รับการรับรอง เพิ่มขึ้นถึง 35% และเครื่องประทินผิวออร์แกนิกส์เพิ่มขึ้น 6.8% มูลค่า 147.6 ล้านปอนด์
  6. เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าออร์แกนิกส์อาจไม่ได้รับผลกระทบจากค่าปุ๋ยที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตสินค้า ออร์แกนิกส์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากค่าพลังงาน ทั้งนี้ ฟาร์มออร์แกนิกส์มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 3.6% คิดเป็น 507,000 เฮกเตอร์ในปี 2021
  7. นอกจากนี้ รายงานของ Soil Association ยังพบว่าในประเด็นเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ที่ผู้บริโภคและร้านค้าให้ความสนใจ ยังคงสามารถเชื่อมโยงกับมาตรฐานของสินค้าออร์แกนิกส์ที่ได้มีการจัดทำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนไว้แล้วอีกด้วย

    ที่มา : Natural Products News

    ข้อมูลเพิ่มเติม/ความเห็น สคต. ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องคำนึงถึงราคาสินค้าและบริการก่อนทำการเลือกซื้อ สินค้าออร์แกนิกส์ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความเชื่อของผู้บริโภคต่อความน่าเชื่อถือของสินค้า โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ สินค้าและบริการออร์แกนิกส์เป็นกลุ่มสินค้าที่ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ส่งออกไทยอาจพิจารณาปรับปรุงผลิตภัณฑ์สินค้าออร์แกนิกส์และขอรับตรารับรองสินค้าออร์แกนิกส์ที่มีความน่าเชื่อถือในตลาดที่สนใจเพื่อเป็นโอกาสในการวางจำหน่ายสินค้าในตลาดต่อไป

                                          สรุปโดย สคต. ลอนดอน

thThai