ไนจีเรียกับการพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยามากถึง 98%

ในการประชุมสุดยอดการเติบโตและการลงทุนของอุตสาหกรรมยาไนจีเรียประจำปี 2025 ซึ่งจัดโดย PBR Life Sciences ที่เมืองลากอส ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเตือนว่าระบบการดูแลสุขภาพของประเทศมีความเสี่ยงอย่างมากเนื่องจากการพึ่งพายาและวัตถุดิบจากต่างประเทศมากเกินไป และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม นักลงทุน และเจ้าหน้าที่ของรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่ไนจีเรียต้องพึ่งพายาที่นำเข้าอย่างมาก และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปและการลงทุนอย่างเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการผลิตยาในประเทศโดยที่ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยจำนวนประชากรของไนจีเรียที่คาดว่าจะเกิน 377 ล้านคนภายในปี 2050 และตลาดยาที่คาดว่าจะเติบโตถึง 1.01 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ขณะนี้จึงเป็นเวลาสำหรับการที่ต้องมีการเข้ามาลงทุนอย่างมากในการผลิตยาภายในประเทศ

ในขณะเดียวกันก็ได้มีการรับทราบถึงความคิดริเริ่มของรัฐบาลกลางเกี่ยวกับแผนการผลิตยาแห่งชาติโดยเน้นย้ำความก้าวหน้าที่แท้จริงจะต้องขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมและทุนของภาคเอกชน การที่ผู้ประสานงานระดับชาติของโครงการริเริ่มของรัฐบาลกลางเปิดเผยว่าไนจีเรียนำเข้ายาที่จำเป็น 80% วัคซีน 100% และอุปกรณ์การแพทย์ 99% ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืนสำหรับประเทศที่มีประชากรมากกว่า 230 ล้านคนจึงต้องมีการปฏิรูปที่นำโดยรัฐบาลหลายประการเพื่อแก้ไขวิกฤตซึ่งคำสั่งของประธานาธิบดีโบลา ตินูบูที่ยกเลิกภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับอุปกรณ์และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยาในประเทศเป็นกุญแจสำคัญ รวมทั้ง ประกาศจัดตั้ง Medipool ซึ่งเป็นองค์กรจัดซื้อใหม่ที่รวบรวมอุปสงค์และทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดสำหรับผู้ผลิตภายในประเทศ

อย่างไรก็ดี แม้จะมีความพยายามของรัฐบาลกลางฯ ผู้นำภาคเอกชนกล่าวว่าจะต้องดำเนินการอีกมากเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตในท้องถิ่นและให้แน่ใจว่าอุตสาหกรรมภายในประเทศสามารถดำรงอยู่ได้ในระยะยาว จึงเรียกร้องให้จัดตั้งอุทยานการแพทย์ด้านยาเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมและดึงดูดการลงทุน โดยชี้ให้เห็นว่าไนจีเรียมีบริษัทยา 200 แห่งกับตลาดที่มีประชากรมากกว่า 200 ล้านคน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา แต่มีอุปสรรคหลายประการในการผลิตยาภายในประเทศ รวมถึงต้นทุนการรับรองของ WHO ที่สูง การขาดแรงงานที่มีทักษะ และการพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าอย่างล้นหลามโดยบริษัทหลายแห่งยังคงนำเข้าวัตถุดิบมากถึง 98% ดังนั้น ไนจีเรียเสี่ยงที่จะเกิดความเสี่ยงด้านยาเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลอันตรายต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของชาติทำให้ระบบการดูแลสุขภาพของเรามีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวนของสกุลเงิน ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดสิ้นสุดลงด้วยฉันทามติของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่าหากไม่มีการลงทุนอย่างจริงจัง การปฏิรูปนโยบาย และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ไนจีเรียอาจเสี่ยงต่อความเปราะบางด้านเภสัชกรรมซึ่งจะส่งผลอันตรายต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไนจีเรียสามารถจัดหาแหล่งวัตถุดิบระดับเภสัชกรรม/สามารถผลิตวัตถุดิบในประเทศได้ก็จะช่วยปรับปรุงการควบคุมคุณภาพและลดการพึ่งพาเงินตราต่างประเทศของประเทศโดยไม่ต้องใช้เงินดอลลาร์นั่นเป็นการประหยัดที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจ

อนึ่ง ไนจีเรียเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกาที่นำเข้าวัตถุดิบสำหรับใช้ในการผลิตยาจึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการที่จะส่งออกวัตถุดิบดังกล่ามายังตลาดแห่งนี้โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านอีเมล์ของสำนักงานฯ

thThai