กลยุทธ์การตลาดเครื่องสำอางในญี่ปุ่น

บริษัทเครื่องสำอางของญี่ปุ่นเร่งชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องสำอางราคาถูกจากเกาหลีใต้ คู่แข่ง  รายสำคัญด้วยกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก

ตลาดสินค้าเครื่องสำอางราคาถูกในญี่ปุ่นขยายตัวดี และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มูลค่าตลาดรวมกว่า 710 พันล้านเยน ขยายตัวร้อยละ 7.7 คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของตลาดเครื่องสำอางทั้งหมดในญี่ปุ่น

เกาหลีใต้ครองตลาดสินค้าเครื่องสำอางราคาถูกในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา โดยกลุ่มผู้บริโภคหลัก คือ วัยก่อนวัยรุ่น (Pre-teen) และวัยรุ่น (ผลสำรวจโดย Cosmetic Importers Association พบว่า 1 ใน 3 ของลูกค้าช่วงอายุ 10 – 20 ปี เคยใช้สินค้าแบรนด์ของเกาหลีใต้) จากการดำเนินกลยุทธ์ด้านราคา และการประชาสัมพันธ์ผ่านศิลปิน K-Pop ผู้มีอิทธิพลทางความคิด (Influencer) และสื่อโซเชียลมีเดีย ขณะที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นเน้นจับตลาดเครื่องสำอาง High-end ที่มีราคา และกำไร (profit margin) สูง โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก

จากความสำเร็จของเกาหลีใต้ ทำให้บริษัทรายใหญ่ของญี่ปุ่นเริ่มใช้กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องสำอางราคาถูก อาทิ บริษัท Kao Corp. เปิด Flagship store แบรนด์ Kate ที่ใจกลางชิบูย่า แหล่งช้อปปิ้งหลักในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เดิมจำหน่ายใน Drugstore เป็นหลัก รวมทั้งให้บริการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม และการใช้ AI วิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าเป็นรายบุคคล ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการบริการในรูปแบบดังกล่าวมักมีเฉพาะสินค้าแบรนด์ที่มีราคาสูง บริษัท Kose Corp. สร้างกระแสความนิยมแบรนด์ Visee โดยใช้นักแสดงที่มีชื่อเสียงในกลุ่มวัยรุ่นทำการโฆษณาผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย บริษัท Tokiwa Pharmaceutical Co. ให้บริการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าผ่านเว็บไซต์เฉพาะสมาชิกของลูกค้าแบรนด์ Excel

————————————————————————

ที่มา : The Japan News ตุลาคม 2567