การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านโรงแรมชั้นนำของเวียดนาม Meet The Experts (MTE) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 โดยหัวข้อ “การฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์เวียดนาม” มีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมเกือบ 1,000 รายเข้าร่วม งานจัดขึ้นโดยบริษัท WeHub ร่วมกับโรงแรม Savills บริษัท KOHLER บริษัท Life Fitness และพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมอีกกว่า 30 ราย ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติของนครโฮจิมินห์

MTE เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการที่จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี และเป็นแพลตฟอร์มสำหรับนักลงทุน เจ้าของโรงแรม บริษัทจัดการ บริษัทออกแบบ และที่ปรึกษา เพื่อนำเสนอข้อมูลล่าสุดและแนวโน้มของตลาดเป็นการรวมตัวของนักลงทุนในท้องถิ่นและภูมิภาคเพื่อส่งเสริมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในด้านการบริการ

ในปี 2566 อุตสาหกรรมโรงแรมในหลายประเทศทั่วโลกกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 โดยร้อยละ 85 ของตลาดทั่วโลกมีรายได้ต่อห้องพักที่พร้อมให้บริการ (RevPAR) สูงกว่าปี 2562 อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกยังคงเผชิญกับความท้าทาย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวยังต่ำกว่าปี 2562 อยู่ร้อยละ 35 ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวทั่วโลกนั้นต่ำกว่าปี 2562 เพียงร้อยละ 12

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์มีผลงานดีที่สุด โดยมีทั้งอัตราการเข้าพักและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม เวียดนามกำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ โดย RevPAR ของเวียดนามยังต่ำกว่าปี 2562 อยู่ร้อยละ 20 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากจำนวนผู้เข้าพักน้อย

นาย Mauro Gasparotti ผู้อำนวยการของ Savills Hotels และผู้ก่อตั้ง MTE กล่าวว่า
เมืองใหญ่ ๆ เช่น นครโฮจิมินห์และกรุงฮานอยกำลังฟื้นตัวเร็วกว่าเมืองท่องเที่ยวชายทะเล โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยใกล้เคียงกับระดับปี 2562  นครโฮจิมินห์กำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดใหญ่ได้เร็วกว่าเมืองอื่น ๆ ในเวียดนาม แต่เมืองที่พักริมทะเลกำลังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ นครดานัง ฟื้นตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก เมืองนี้มีเที่ยวบินตรงจากเมืองสำคัญของเกาหลีใต้ประมาณ 25 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดที่มาถึงนครดานัง  ในขณะเดียวกัน เมืองชายหาดอื่น ๆ เช่น นครญาจาง (Nha Trang) และคัมรัญ (Cam Ranh) กำลังพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยว เนื่องจากพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นส่วนใหญ่  ถึงแม้ว่าเวียดนามจะมีศักยภาพที่จะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก แต่จำเป็นต้องมีการปรับปรุงที่สำคัญ  ปี 2567 คาดว่าจะเป็นปีที่การท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะฟื้นตัวอย่างคึกคัก เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก  นอกจากนี้ ตลาดอินเดียยังคาดว่าจะเป็นแรงผลักดันการท่องเที่ยวเวียดนามในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การประชุม MTE ครั้งนี้ให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และระบบการจัดการ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากรีสอร์ท Six Senses และโรงเรม Seibu Prince Hotel Worldwide Inc. นำเสนอแนวทางการบรรลุเป้าหมาย “Zero Waste” ในการดำเนินงานของรีสอร์ทหรูดังกล่าว

ตัวแทนจากสภาหอการค้ายุโรปในเวียดนาม (Eurocham) และบริษัท Greenview ยังได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับปัจจัยสำคัญในการคว้าโอกาสในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สีเขียว อนาคตของอาคารสีเขียวในเวียดนาม และวิธีการสร้างโอกาสทางธุรกิจจากปัจจัยด้านสุขภาพและความยั่งยืน

ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจากโรงแรม Savills บริษัท Mapletree บริษัท Keppel Ltd. บริษัท Kohler บริษัท Lodgis Hospitality และบริษัท Filmore Development ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ อุปสรรคและความท้าทาย และเสนอแนวคิดเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาด

ในอนาคตนักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่สอดคล้องกับคุณค่าของพวกเขา โครงการที่สามารถแสดงให้เห็นถึงความยั่งยืน สุขภาพ และความน่าเชื่อถือจะมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน

(แหล่งที่มา https://vir.com.vn/ ฉบับวันที่ 29 มีนาคม 2567)

วิเคราะห์ผลกระทบ

ในปี 2567 การท่องเที่ยวเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนหลังจากเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 มาเกือบ 5 ปี สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวในเมืองใหญ่ ๆ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความต้องการของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นผลมาจากความพยายามอย่างจริงจังของภาคอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่างตระหนักดีว่า “การพัฒนาอย่างยั่งยืน”จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ การมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับกระแสขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) และตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ กลายเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสที่จะเปิดประตูเขัาสู่การตลาดโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

นำเสนอโอกาส/แนวทาง

แนวโน้มการฟื้นตัวภาคธุรกิจโรงแรมในเวียดนามเริ่มมีสัญญาณที่ชัดเจน ซึ่งธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดี และทำให้เวียดนามมีความต้องการนำเข้าสินค้าและบริการเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม โดยเทรนด์การบริหารจัดการโรงแรมเน้นไปที่การจัดการแบบ Green Management ที่เน้นความยั่งยืนมากขึ้น และการจัดการแบบ Zero Waste ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการจัดการ ทำให้สินค้าที่ธุรกิจมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น ได้แก่ สินค้ารักษ์โลก  สินค้าผลิตจากวัสดุรีไซเคิล สินค้าที่เป็นมิตรธรรมชาติ เป็นต้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิต/ผู้ส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าว
ในการรองรับอุปสงค์จากกลุ่มธุรกิจโรงแรมมาในเวียดนา

 

thThai