สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ครองแชมป์การเริ่มธุรกิจสูงสุดในโลก ปี 2567

ในประเทศกำลังพัฒนา กิจกรรมความเป็นผู้ประกอบการมีส่วนสำคัญในฐานะเครื่องมือทางเศรษฐกิจในการเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจจัดระบบโครงสร้างของเศรษฐกิจ ตามรายงานของ     Global Entrepreneurship Monitor (GEM) หรือรายงานการศึกษาความเป็นผู้ประกอบการทั่วโลกประจำปี 2566-2567 ได้เผยให้เห็นว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  หรือยูเออี ได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งของโลกสามปีติดต่อกัน  โดยเป็นการประเมินและเปรียบเทียบความเป็นผู้ประกอบการทั่วโลก ซึ่งมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายการวิจัยกับ GEM รวมกว่า 63 ประเทศทั่วโลก

ความสําเร็จครั้งนี้มีความสําคัญ เพราะยูเออีได้รับการโหวต ที่ 7.7 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ GEM นับว่า ยูเออีถือเป็นประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นและดําเนินธุรกิจใหม่ๆของโลก เหนือกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ อีกทั้งรายงาน GEM 2023/2024 แสดงว่ายูเออีมีความเป็นเลิศใน 12 จาก 13 ตัวชี้วัดทั่วโลก มาจากหลายปัจจัยหลักที่หนุนต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในยูเออี เช่น การสนับสนุนทางการเงิน การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการผู้ประกอบการ การเข้าถึงทางการเงิน ความสะดวกในการเข้าสู่ตลาด โครงสร้างพื้นฐาน การวิจัยและพัฒนา การถ่ายโอนความรู้ โครงการของรัฐบาล นโยบายสนับสนุนภาษี การศึกษา และมาตรฐานทางวัฒนธรรม

ยูเออีถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก ในแง่ของตัวชี้วัดโครงสร้างพื้นฐานที่จับต้องได้ นาย Abdullah bin Touq Al Marri รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจยูเออี ได้กล่าวแสดงความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จของยูเออี โดยระบุว่าเป็นผลมาจากความสนใจของประเทศในการเป็นผู้ประกอบการและการสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อสร้างเศรษฐกิจและฐานความรู้ที่แข่งขันได้บนพื้นฐานของนวัตกรรมและแนวคิดเศรษฐกิจใหม่ รัฐบาล มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสนับสนุนและเร่งรัดการเติบโตของธุรกิจ SMEs และ Startup โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ที่ใช้นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีใหม่ๆ

รัฐบาลยูเออีมีความพยายามในการส่งเสริมผู้ประกอบการมาตลอดหลายปี มีนโยบาย UAE Vision 2031 ที่ต้องการยกระดับประเทศให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภายใน 10 ปีข้างหน้า โดยคำนึงถึงความสำคัญของรูปแบบการเป็นผู้ประกอบการในการพัฒนาโครงการและกิจกรรมในภาคส่วนต่างๆ ของเศรษฐกิจใหม่ เช่น เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ พลังงานหมุนเวียน อวกาศ เทคโนโลยีทางการเงิน และอื่นๆ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของผู้ประกอบการผ่านนโยบายต่างๆเช่น “ศูนย์กลางผู้ประกอบการ” (Entrepreneurship Hub) และโปรแกรม Nafis  เพื่อสร้างแรงจูงใจและสนับสนุน SMEs ในการเข้าสู่ตลาดโลกและส่งเสริมนวัตกรรม

รายงานระบุว่า รัฐบาลได้ลงทุนอย่างหนักเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในสภาพแวดล้อมของผู้ประกอบการและเพิ่มระดับกิจกรรมของผู้ประกอบการเป็นสองเท่าในระยะแรก นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนผู้ประกอบการสตรี สร้างสภาพแวดล้อมในการเริ่มต้นธุรกิจและสร้างแรงจูงใจ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรและความสามารถของสตรีที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม ส่งผลให้ยูเออีเป็นประเทศเป็น 1 ใน 5 จาก 49 ประเทศของเศรษฐกิจโลกที่สนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจของสตรี

ยูเออีมีความก้าวหน้าอย่างมากในตัวชี้วัดการศึกษาของผู้ประกอบการของโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการกระตุ้นทักษะต่าง ๆ เช่นการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน การแก้ปัญหา การระบุโอกาส และการประเมินความเสี่ยง นอกจากนี้ ยูเออียังได้รับการจัดเป็นอันดับ 1 ของโลกเกี่ยวกับดัชนีสิ่งแวดล้อมผู้ประกอบการแห่งชาติ (National Entrepreneurship Context Index :NECI) ซึ่งติดตามสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการในแต่ละประเทศ โดยอิงตามคะแนนตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญระดับชาติ สาขาการเป็นผู้ประกอบการ สิ่งนี้มีส่วนสนับสนุนวิสัยทัศน์ของยูเออีเข้าสู่ SMEs จำนวน 1 ล้านแห่งภายในปี 2574

อันดับของประเทศอื่นในรายงาน ได้แก่ อินเดียอันดับ 2 ซาอุดีอาระเบียอันดับ 3 ลิทัวเนียอันดับ 4 กาตาร์อันดับ 5 เอสโตเนียอันดับ 6  เนเธอร์แลนด์ ได้อันดับ 7 เกาหลีใต้อันดับ 8 สวิตเซอร์แลนด์อันดับ 9 และจีน ได้อันดับ 10

Global Entrepreneurship Monitor (GEM) ถือเป็นหนึ่งในข้อมูลอ้างอิงระดับโลกที่สำคัญที่สุดในด้านการเป็นผู้ประกอบการสำหรับประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ เช่น World Bank, International Monetary Fund, Organization for Economic Co-operation and Development (OECD), World Intellectual Organization

องค์การทรัพย์สินทางปัญญา(WIPO)และองค์กรในเครือของสหประชาชาติ

แนวทางของรายงานนี้มุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่ การวัดความแตกต่างของกิจกรรมสตาร์ทอัพในเศรษฐกิจต่าง ๆ ทั่วโลก การทำความเข้าใจระบบนิเวศของสตาร์ทอัพและการเปิดเผยปัจจัยที่มีผลต่อสตาร์ทอัพและการนำเสนอนโยบายเพื่อยกระดับและพัฒนากิจกรรมสตาร์ทอัพ

ความเห็นของสคต. ดูไบ

จากรายงานของ GEM ดังกล่าวพอสรุปได้ว่า ควรมีการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการด้วยการสามารถเข้าถึงความรู้และทักษะใหม่ๆได้ง่ายขึ้น มีการอบรมผู้ประกอบการในการขยายการส่งออกไปตลาดอื่นๆ ส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ในการผลิตสินค้าและบริการ กระตุ้นผู้ประกอบการให้ย้ายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต จัดเตรียมพื้นที่ให้ผู้ประกอบการมีการแลกเปลี่ยนความรู้ หรือทรัพยากรต่างๆระหว่างกัน ที่สามารถนำไปสู่การสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ๆ ส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกัน สร้างเครือข่ายกับผู้มีส่วนได้เสียหรือภาคธุรกิจด้วยกัน สนับสนุนผู้ประกอบการให้ออกงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญผู้ประกอบการเข้าใจและให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมให้เกิดขึ้นทั้งในการผลิตสินค้า และบริการ หรือกระบวนต่างๆ ของธุรกิจ ด้วยมาตรการต่างๆเหล่านั้นจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการดีขึ้นและสอดรับกับแน้วโน้มการพัฒนาทางด้านธุรกิจของโลกในอนาคต

ในส่วนของปัจจัยอุปสรรคต่อการขยายธุรกิจจากขนาดเล็กสู่ขนาดกลาง ในอันดับแรกคือ  การสนับสนุนทางการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินส่วนใหญ่ยังคงมีแนวโน้มที่จะปล่อยสินเชื่อให้แก่วิสาหกิจขนาดใหญ่และขนาดกลางมากกว่าวิสาหกิจขนาดย่อม อันดับสองคือการเปิดกว้างของตลาด เนื่องจากการถูกกีดกันทางการค้าจากคู่แข่งขนาดใหญ่ทั้งในและจากต่างประเทศ อันดับสามการเข้าถึงข้อมูลและเครือข่ายธุรกิจ และสุดท้ายคือทักษะและความสามารถของผู้ประกอบการ เนื่องจากผู้ประกอบการรายเล็กส่วนใหญ่ยังคงขาดทักษะในการบริหารจัดการธุรกิจ     จึงทำให้ไม่สามารถขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

thThai